12 สิงหาคม 2564

ลับคมความคิด โดย บัณฑิต ดาแว่น

 

คิดอย่างบัณฑิต

ลับคมความคิด เพื่อพัฒนาชีวิตและพันธกิจ 

โดย บัณฑิต ดาแว่น

 

เป็นคนชนบท แต่ก็ยากรู้จักคนในเมืองว่าเขาทำอะไรกันบ้าง  หนังสือเล่มนี้ “คริสเตียนในเมืองใหญ่ การรับใช้ที่เกิดผลในโลกปัจจุบัน” เรย์ บาคกี และจิม ฮาร์ท เขียน ศูนย์ทีรันนัส นำมาแปลและพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007  ถูกซื้อมาพร้อมกับเล่มอื่น ๆ วางไว้ตามชั้นหนังสือ จากนั้นทยอยหยิบมาอ่าน เพื่อลับคมความคิด พัฒนาชีวิตและการทำพันธกิจของพระเจ้าให้รู้เท่าทันทั้งหลักแห่งพระวจนะและสถานการณ์ในสังคม

แม้เป็นหนังสือที่ตั้งชื่อเกี่ยวกับเมือง แต่ยังช่วยให้เห็นภาพว่า เมืองก็เกิดจากส่วนประกอบของคนชนบทที่เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ หลายเมืองเริ่มต้นจากเล็ก ๆ กลายเป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่  ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนในเมืองใหญ่ หรืออยู่แถวชายขอบของแผ่นดิน  ยังอยู่ในสายพระเนตรและแผนการณ์ของพระเจ้าเสมอ

พระเยซู เป็นชายหนุ่มจากบ้านนอกเข้าสู่เมืองกรุง  กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง แซงบรรดาธรรมาจารย์ และฟาริสีจนถูกอิจฉาตาร้อน ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่พวกเขาใช้เป็นข้ออ้างขัดขวางและไปถึงการสังหารพระองค์ เพราะประชาชนหันไปนิยมชมชอบพระเยซูและคำสอนของพระองค์ (มัทธิว 7.28-29, ยอห์น 12.19) เจ้าเมืองปีลาต หาช่องทางช่วยพระเยซูเพราะรู้ว่าถูกแรงอิจฉาทำร้าย โดยประกาศชัดว่า  “เจ้าทั้งหลายปรารถนาให้ปล่อยผู้ใด บารับบัส หรือเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์  เพราะท่านรู้อยู่แล้ว ว่าเขาได้อายัดพระองค์ไว้ด้วยความอิจฉา- Mattew 27:17-18

         พระเยซู สนพระทัยทั้งคนในเมืองและชนบท ทรงเดินเท้าเข้าไปพบปะผู้คนและช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ทั้งฝ่ายกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ด้วยพระทัยเมตตาสงสาร (มัทธิว 9.35-39)

จากคำดูถูกที่มีบางคนพูดถึงว่า “จะมีสิ่งดีอันใดมาจากนาซาเร็ธได้” (ยอห์น 1.46, มัทธิว 26.69,กิจการ 2.7 คำพูดเชิงดูแคลนต่อ"ชาวกาลิลี") สุดท้ายพิสูจน์แล้วว่าคนที่พูดนั้นกลายมาเป็นหนึ่งในสาวกที่ติดตามพระเยซูและประกาศพระกิตติคุณของพระองค์ออกไปตลอดชีวิตของเขา

(อ่าน สิ่งดีจากนาซาเร็ธ https://bandhit.blogspot.com/2021/07/nazareth.html)

พระเยซูคริสต์ เป็นคนบ้านนอก เกิดจากสายเลือดผสมของคนที่ยากไร้ หลายเชื้อชาติ หลายคนที่มีชื่อในพงษ์พันธุ์ตามการบันทึกของพระกิตติคุณ(มัทธิว 1.1-16) พบ ผู้หญิงชื่อทามาร์ ชาวคานาอันลูกสะใภ้ของยูดาห์ (ปฐมกาล 38) ราหับ หญิงที่เคยเป็นโสเภณีแต่โดยความเชื่อเขาช่วยเหลือผู้สอดแนมชาวฮีบรู (โยชูวา 2, ยากอบ 2.25, ฮีบรู 11.31) เขากลายมาเป็นแม่ของโบอาส และโบอาสคนนี้ที่รับ  รูธ แม่หม้ายชาวโมอับซึ่งติดตามแม่สามีกลับมายังเบธเลเฮม (มัทธิว 1.5) (โมอับ สืบเชื้อสายมาจากโลทกับลูกสาวของตน ปฐมกาล 19) จากนั้นยังพบผู้หญิงที่ชื่อบัทเชบา อดีตภรรยาของอุรียาห์ชาวฮิตไทต์ที่ดาวิดได้มาอย่างผิดทาง (2 ซามูเอล 11)

พระเยซู เป็นพระเจ้า แต่ยอมลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ในสภาพของโลกที่มีแต่ความผิดบาปสารพัดรูปแบบ พระองค์มีสิทธิเลือกที่เกิดและชาติกำเนิดที่สวยหรู แต่กลับยอมถ่อมพระทัยมาอาศัยท่ามกลางความยากลำบากร่วมกับพวกเรา (ฟิลิปปี 2.5-11) แต่ถึงกระนั้น พระองค์หาทรงมีบาปหรือมลทินไม่ (2 โครินธ์ 5.21, 1 เปโตร 1.19)

พระเยซู ทรงเข้าใจ เห็นใจคนทุกข์ยาก พระองค์ทำพันธกิจช่วยแม่หม้าย เด็กกำพร้า คนเจ็บป่วย ยากจน และยังช่วยช่วยคนมั่งมี ผู้สูงศักดิ์ เพราะทรงรู้ว่าทุกคนล้วนต้องการความช่วยเหลือและความรอด

พระองค์ทรงทำทุกสิ่งเพื่อช่วยมวลมนุษย์ให้รอดพ้นจากความผิดบาป  จากคนบ้านนอก ด้อยโอกาสในสายตาของหลายคน แต่ทรงยอมอดทน จนกระทั่งพิสูจน์ชัดแล้วว่าทรงเป็น พระบุตรของพระเจ้า ที่มาเกิดในโลกนี้เพื่อรับความเจ็บ ความจน ความอับอาย และความตายแทนคนทั้งปวงตามแผนการณ์อันล้ำลึก (เอเฟซัส 1.9)

อ่านมาเพียงครึ่ง จึงบันทึกข้อคิดจากการอ่าน เพื่อเป็นสัญญาณเตือนใจเสมอว่า ไม่ว่าจะเป็นคนบ้านนอกหรือในเมือง เราต่างต้องการพระเจ้า และต้องการความเข้าใจในชีวิต เพื่อพิชิตเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ตามแผนการณ์ของพระองค์