18 กันยายน 2561

The Living Word - พระคำดำรงชีวิต โดย ศจ.บัณฑิต ดาแว่น

The Living Word - พระคำดำรงชีวิต นำเสนอโดย ศาสนาจารย์บัณฑิต ดาแว่น

ร่วมประชุมใหม๋ม้งแบ๊บติสต์อเมริกา HBNA Conference 2017

ร่วมประชุมและเทศนาในงานประชุมใหญ่ม้งแบ๊บติสต์อเมริกา รัฐมินนิสโซต้า 
วันที่  27-30 มิถุนายน 2017
Preaching and attend in Hmong Baptist National Association, Conference. Minnesota, USA
June 27-30,2017



11 มิถุนายน 2561

จงใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างฝันให้เป็นจริง โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต  โดย บัณฑิต  ดาแว่น (May 25, 2018 at  Orlando FL, USA)

“จงใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างฝันให้เป็นจริง”

ผมเดินทางมายังอเมริกาอีกครั้งโดยพระคุณและการจัดเตรียมของพระเจ้า  มุ่งหน้าไปยังรัฐฟลอริด้า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของอเมริกา เป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายในการทำพันธกิจ  เมื่อว่างเว้นจากงานก็ได้โอกาสไปเยี่ยมชมสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของดิสนีย์ อันเป็นความใฝ่ฝันของผู้คนที่อยากไปเยือน แม้จะต้องจ่ายค่าที่พัก อาหาร ค่าเข้าชม และกิจกรรมต่างๆ ด้วยเงินก้อนใหญ่ แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากต่อแถวรอกันยาวเหยียด... ส่วนผมคงไม่พร้อมจ่ายอย่างนั้น เพราะคิดดูแล้วค่าเข้าชมหนึ่งวันสามารถเป็นค่าอาหารไปทั้งอาทิตย์ได้เลย และหากต้องการชมให้ทั่วเห็นบอกว่าต้องใช้เวลาทั้งเดือนเลยทีเดียว เท่าที่มีเวลาประมาณครึ่งวันกับงบประมาณที่จำกัด ผมเลือกเข้าชมในส่วนของ Disney Spring. ที่ให้ชมฟรี ! ย้ำอีกครั้ง ฟรี !!  โดยเดินชมตามโซนต่างๆ ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ของวอลต์ดีสนีย์ เช่น มิกี้เมาส์ ทรอยสตอรี่ จิกซอร์ เทเรซ และอีกหลายเรื่อง เดินไปถ่ายรูปไป เหนื่อยก็พัก หิวก็ซื้อกิน ตกเย็นก็นั่งฟังเพลง ชมการแสดง ของเหล่าศิลปินที่มากความสามารถมาโชว์ผลงานอย่างน่าทึ่ง ช่างเป็นวันที่พิเศษจริงๆ

วอลต์ดิสนีย์เวิลด์ (Walt Disney World) เรียกอย่างเป็นทางการ ว่า วอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต (Walt Disney World Resort
) เป็นรีสอร์ตที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในโลกและมีจำนวนผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1971 ดำเนินการโดยวอลต์ดิสนีย์พาร์กแอนด์รีสอร์ต ส่วนหนึ่งของบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ มีขนาดพื้นที่ 30,080 เอเคอร์ หรือ 121.7 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วย สวนสนุก 4 แห่ง สวนน้ำ 2 แห่ง โรงแรมและสถานพักตากอากาศ 27 แห่ง รวมถึงอีก 9 แห่งที่ไม่ใช่ของดิสนีย์ และมีแหล่งช็อปปิ้ง สนามกอล์ฟ สปา ฟิตเนส สถานบันเทิง และร้านอาหารอีกจำนวนมาก  มักนิยมเรียกย่อว่า ดิสนีย์เวิลด์ หรือย่อว่า WDW เริ่มต้นมีเพียงสวนสนุกแห่งเดียวคือแมจิกคิงดอม แต่ต่อมาเปิดให้บริการ เอปคอต (ค.ศ. 1982) ฮอลลีวู้ดสตูดิโอส์ (ค.ศ. 1989) และ แอนิมอลคิงดอม (ค.ศ. 1998)  ปัจจุบันวอลต์ดิสนีย์เวิลด์เป็นสถานที่พักผ่อนวันหยุดที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก จำนวน 52 ล้านคนต่อปี[2] เป็นจุดหมายปลายทางแฟนคลับของดิสนีย์และเป็นวัฒนธรรมสมัยนิยมของชาวอเมริกัน  (https://th.wikipedia.org/wiki/วอลต์ดิสนีย์เวิลด์)

มีคนกล่าวว่า...ดีสนีย์สนุกกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในดินแดนสวนสนุกของเขาเสมอ เขาเรียกว่า...สวนสนุกดีสนีย์แลนด์ไม่มีวันเสร็จสิ้น…

As long as there is imagination left in the world, Disneyland will never be finished
ตราบใดที่โลกยังมีจิตนาการหลงเหลืออยู่ สวนสนุกดีสนีย์แลนด์ไม่มีวันเสร็จสิ้น…

เป็นถ้อยประโยคที่ดีสนีย์ได้กล่าวไว้และจนถึงปัจจุบัน สวนสนุกดีสนีย์ยังคงดำรงอยู่  จากที่แรก ณ เมือง อนาไฮม์ รัฐแคลิฟลอเนีย จนปัจจุบันได้ขยายสาขาไปยังที่ต่าง ๆ อีกหลายแห่งทั่วโลก

ทำไมผู้คนจำนวนมากถึงอยากไปดูสิ่งที่ปลูกสร้างอย่างรังสรรค์ของวอลต์ดีสนีย์อย่างนั้น ? แน่นอนเพราะเขาสามารถสร้างความฝันและจิตนาการให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องและมองเห็นได้ ประกอบกับเทคนิคการตลาด ระบบที่รองรับความต้องการของคนอย่างดี  จึงประสบความสำเร็จ

หากมองในด้านจิตวิญญาณและความจริงที่เป็นอยู่ ใครเป็นผู้สร้างและรังสรรค์สิ่งดี สิ่งสวยงามที่แท้จริง หรือ เป็นต้นตำหรับของการสร้างฝันให้เป็นจริง  คำตอบจากพระคัมภีร์พบว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้เนรมิตาสร้างฟ้าและแผ่นดิน สรรพสิ่ง สรรพสัตว์ ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น รวมทั้งชีวิตของมนุษย์อย่างคุณและผมขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ (ปฐก.1,ยน.1) หากมองดูมือข้างละห้านิ้วที่ทำงานอย่างน่าทึ่ง อวัยวะต่างๆ มีระบบระเบียบของมันอย่างอัศจรรย์ จะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดแม้เล็กน้อยเพียงใดก็ไม่ได้ แม้เส้นขนเพียงน้อยนิดหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งกายไปด้วย

สิ่งที่ดีสนีย์คิดและรังสรรค์สร้างขึ้นมานั้น เป็นสิ่งที่จำลองของจริงและเกิดจากจินตนาการเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายก็ต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่พระเจ้าได้สร้างไว้ในงานของเขาทุกอย่าง  แต่สิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นเกิดขึ้นด้วยฤทธ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นของจริงที่มีชีวิต และไม่เคยมีมาก่อน ไม่ต้องใช้วัสดุแต่เกิดจากการ “เนรมิต” ด้วยพระดำรัส เมื่อตรัส(พูด) ก็ทำให้เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์  ดังนั้น พระเจ้าสมควรที่จะเป็นผู้ได้รับความสนใจและคำยกย่องสรรเสริญมากสักเท่าใด

ปัญหาคือมนุษย์กลับลืม ละเลย และมองข้ามความจริงนี้ไป แถมหลายคนยังต่อต้าน เหยียดหยามพระผู้สร้างอย่างมีอคติ  หลงคิดว่าสามารถทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ด้วยตนเองได้ จนลืมที่มาที่ไป ลืมแหล่งกำเนิดของชีวิต จึงใช้ชีวิตตามใจตนเอง ไม่สนใจการถวายเกียรติแด่พระเจ้า ไม่สนใจแก่นแท้ของชีวิต หลงอยู่แค่ภาพลักษณ์ภายนอก พยายามทำตัวให้เป็นที่ยอมรับด้วยวัตถุสิ่งของเท่านั้น ซึ่งนำไปสู่การลดคุณค่าของคน แต่กลับให้คุณค่าวัตถุเกินความเป็นจริง ส่งผลกระทบต่อชีวิตตนเองและสังคมอย่างน่าใจหายดังที่เห็นทุกวัน

หากคุณรู้และยอมรับความจริงแล้วว่าผู้ที่สรรค์สร้างและให้ชีวิตที่แท้จริงเป็นใคร ใครควรค่าแก่การยกย่องสรรเสริญ ก็ขอให้ใช้ชีวิตและเวลาที่มีอยู่นั้นทำสิ่งที่ควรค่า และถวายเกียรติแด่พระองค์ดีกว่าหรือไม่? เพื่อให้ผลดีนั้นเกิดขึ้นแก่ชีวิตและคนรอบข้างอย่างน่าชื่นชมต่อไป 

“จงใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างฝันให้เป็นจริง” ดังตัวอย่างชายที่ชื่อ วอลต์ดีสนีย์ได้ทำมาแล้ว แม้เราไม่สามารถสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ แต่เพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์และมีคุณค่า เท่านี้ก็มากพอที่จะก่อเกิดประโยชน์มากมายแล้ว และสุดท้ายสำคัญยิ่ง คือ อย่าลืม อย่าละเลยที่จะยกย่องถวายเกียรติแด่พระเจ้าพระผู้สร้างที่แท้จริงด้วย แล้วคุณจะพบว่าแท้จริงชีวิตมีสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากกว่าที่คุณเคยคิด

มาลองดูสิครับ ?

ความจำของผมสั้น แต่ความรักของพระเจ้ายาว โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต โดย ศจ.บัณฑิต ดาแว่น

ความจำของผมสั้น แต่ความรักของพระเจ้ายาว

what is man that you are mindful of him,
and the son of man that you care for him?
มนุษย์เป็นผู้ใดเล่า ที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา?
และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่า ที่พระองค์ทรงห่วงใยเขา? (สดุดี 8:4)
เช้าวันที่ 25 มิถุนายน 2017 ผมอ่านพระคัมภีร์ต่อเนื่องและกำลังอ่านถึงสดุดีบทที่ 8 ขณะที่อยู่ในเมือง Saint Paul, Minnesota USA. โอกาสได้รับเชิญเข้าร่วมและเทศนาในการประชุมใหญ่ประจำปีของสหคริสตจักรม้งแบ๊บติสต์อเมริกา (Hmong Baptist National Association) นับเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่หาที่สุดไม่ได้ที่มีต่อชีวิต การมาครั้งนี้มีสัญญาณการรับรองที่มาจากพระเจ้าหลายอย่างนับตั้งแต่การได้รับเชิญ การขอวีซ่า การซื้อตั๋วเครื่องบิน การเดินทางที่ยาวไกล การใช้ภาษาที่เราไม่คุ้นเคย ยังไม่นับรวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดไม่ถึงว่าจะเจอแต่ก็สามารถผ่านมาได้อย่างอัศจรรย์ เมื่อได้อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ทำให้ได้คำตอบในใจว่า เพราะพระเจ้าทรงรัก ห่วงใย และทรงคิดถึงชีวิตของผมนั่นเอง !
ทำไมต้องเป็นการมาร่วมกับพี่น้องม้งในอเมริกา ? ทั้งที่ผมไม่ใช่คนม้ง พูดภาษาม้งไม่ได้ (กินอาหารม้งได้แบบอร่อย) แต่พระเจ้ายังทรงคิดถึงและให้โอกาสในการรับใช้ ทำให้ย้อนคิดกลับไปเมื่อครั้งยังเด็กอายุไม่กี่ขวบ ผมต้องซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ของคุณพ่อ ที่ท่านเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา แต่มีหัวใจในการประกาศข่าวประเสริฐ เพราะชีวิตของท่านได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้าให้หลุดพ้นจากการเป็นทาสของสุราและชีวิตที่เลวร้าย ท่านไม่รู้วิธีการประกาศอะไรมากนัก แต่อยากให้คนอื่นรู้ถึงอำนาจของพระเจ้าองค์เที่ยงแท้นี้ด้วย ท่านพูดกับผู้คนที่พบปะถึงข่าวประเสริฐของพระเจ้า พ่อพาผมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปที่ศูนย์อพยพชาวม้งที่อำเภอบ้านโคกจังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากบ้านประมาณ 70 กิโลเมตร ทางลูกรังเต็มไปด้วยฝุ่น แดดร้อนแผดเผา ผมนั่งหัวผะงกไปมาเพราะง่วงนอน แต่รถฮอนด้าคันเก่าก็ค่อยคืบคลานไปจนถึง ผมลงจากรถและเริ่มร้องเพลงพร้อมกับทำท่าทางยกไม้ยกมือ “ยกพระเยซู ๆ ยกพระองค์ให้ชาวโลกได้เห็น พระองค์ตรัสว่า เมื่อเราถูกยกจากโลกแล้ว เราจะนำคนทั้งหลายมาหาท่าน” อะไรประมาณนี้ ไม่มีเครื่องขยายเสียง ไม่มีอุปกรณ์แสงสีเสียง แต่ทว่า ชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างมามุงดูว่าเด็กคนนี้กำลังทำอะไร พ่อเล่าเรื่องพระเยซูให้พวกเขาฟัง บางคนสนใจ บางคนหัวเราะ บางคนโต้ตอบ จากนั้นพาผมเข้าไปภายในศูนย์อพยพ จำได้ว่าบริเวณที่ผมยืนอยู่นั้นหมอผีกำลังประกอบพิธีของเขาอยู่ ผมไม่รู้เรื่องก็แค่ยืนดูตามประสาเด็ก แต่ปรากฏว่าหมอผีโกรธ ตะโกนเสียงดัง คว้าดุ้นฟืนมากัดกิน จนถ่านไฟแดงๆแตกกระจายไปทั่ว บางส่วนกระเด็นมาเกือบถึงหน้าของผม ผู้คนเริ่มวุ่นวายต่างเดินหนีออกไป ส่วนผมยังยืนอยู่อย่างไร้เดียงสา จนมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อพี่ทหารมาคว้าตัวออกไป พ่อก็รีบกลับมาหาผมเช่นกัน มารู้ที่หลังว่า หมอผีไม่สามารถประกอบพิธีได้เพราะมีผู้เชื่อพระเยซูอยู่ตรงนั้น... วันนี้ผมย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นนับเป็นเวลา 30 กว่าปีมาแล้ว ฤทธิ์อำนาจของพระเยซูมีพลังอำนาจเหนือผีมารเสมอ แม้เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจหลายเรื่อง แต่ยังคงสำแดงอย่างชัดเจนว่า ผีมารไม่อาจทำการของมันได้เมื่อมีใครที่เชื่อพระเยซูอยู่ตรงนั้น...ชาวม้งในศูนย์อพยพส่วนใหญ่ได้ย้ายไปอยู่ประเทศที่สามตามนโยบายรัฐบาลและสหประชาชาติ บางส่วนไปอยู่ที่อเมริกาและประเทศอื่นๆส่วนหนึ่งเข้าสู่ชุมชนพัฒนาชาติไทย...ปัจจุบันผมยังมีโอกาสรับใช้พระเจ้าท่ามกลางพี่น้องหลากหลายกลุ่มในภาคเหนือของไทยซึ่งรวมถึงพี่น้องม้งด้วย
ความทรงจำของผมในเรื่องราวสมัยเด็กมีไม่มากนัก หลายเรื่องผมลืมไปแล้ว แต่พระเจ้าไม่เคยลืม พระองค์ทรงคิดถึงคนของพระองค์อยู่เสมอ ความสัตย์ซื่อ ความเที่ยงธรรม ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เสมอ สิ่งที่เราเคยทำแม้เป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่หากทำต่อผู้หนึ่งผู้ใดในนามพระเยซู พระองค์ไม่เคยลืมเลย (มธ.25:40) ไม่มีอะไรที่จะไร้ประโยนชน์สำหรับคนที่รับใช้พระเจ้าจริงๆ (1คร.15:58)
พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง ทรงอยู่ก่อนทุกสิ่งจะมีขึ้นมา ทรงเป็นอัลฟ่าและโอเมกา ทรงเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย ทรงเป็นนิรันดรกาล ทรงรู้ทรงเห็น ทรงเข้าใจ ทรงจำได้ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตนิรันดร์ แม้ความทรงจำของมนุษย์นั้นแสนสั้น แต่ความรักความทรงจำของพระเจ้าเป็นนิรันดร์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงคิดถึงชีวิตของเราเสมอ เพียงแต่ว่าเราจะเข้าใจพระทัยของพระองค์มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงคิดถึงข้าพระองค์... ขอพระเกียรติและพระสิริเป็นขององค์พระยาห์เวห์สืบไปเป็นนิตย์ เพราะพระนามของพระองค์นั้นสูงส่งยิ่งนักทั่วทั้งแผ่นดินโลก

"ย้อนเวลา หาอนาคต" โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต โดย ศาสนาจารย์ บัณฑิต ดาแว่น

"ย้อนเวลา หาอนาคต"
บทความนี้เขียนขึ้นบนเครื่องบิน Japan Airlines ระหว่างสนามบินนาริตะประเทศญี่ปุ่นกำลังจะเข้าน่านฟ้าของอเมริกา ข้ามเวลาจากตะวันออกสู่ตะวันตก ที่เวลาสวนทางกันจากกลางวันเป็นกลางคืน
เคยดูภาพยนตร์เกี่ยวกับการย้อนเวลาหาอนาคต เพื่อกลับไปแก้ไขอะไรบางอย่างได้ แต่ไม่คิดว่าเรื่องการย้อนเวลาจะเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสเดินทางข้ามทวีปจากประเทศไทยไปสู่อเมริกา เริ่มออกเดินทางโดสายการบิน American Airlines จากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 08:10 น. ของเช้าวันที่ 21 มิถุนายน 2017 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนาริตะญี่ปุ่น และมุ่งตรงแบบยาวไปสู่รัฐชิคาโก้ของอเมริกา ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและต่อเครื่องไปรัฐมินนิโซต้าอันเป็นจุดหมายปลายทางครั้งนี้ รวมเวลาทั้งนั่งบนเครื่องบินและนั่งรอต่อเครื่องแล้วไม่น้อยกว่า 25 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าหากนั่งอยู่ประเทศไทยก็จะกลายเป็นวันใหม่ไปแล้ว แต่กลับพบว่าเมื่อไปถึงปลายทางยังเป็นแค่เที่ยงคืนของวันที่ 21 เหมือนเดิม หากเปรียบเทียบเวลาในไทยก็เป็นเที่ยงวันของวันที่ 22 มิถุนายน...Wow !! ชีวิตผมย้อนเวลาไปตั้งหลายชั่วโมงแนะ !
แม้จะย้อนเวลาได้ แต่ผมไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ของชีวิตได้เลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นยังดำเนินไป เพียงแค่อยู่คนละตำแหน่งของโลกเท่านั้น ผมไม่สามารถหยุดเวลา หรือถอยกลับไปแก้ไขได้จริงๆ ยังคงต้องเผชิญกับปัญหา ความเจ็บปวด และสิ่งสารพัดตามธรรมดาโลกต่อไป
พระเยซูคริสต์ ทรงย้อนเวลาได้ ! และที่สำคัญพระองค์สามารถย้อนกลับไปแก้ไขสถานการณ์ต่างๆในอดีตได้ด้วย สิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำเมื่อสองพันกว่าปีก่อนนั้นสามารถแก้ไขปัญหาของมนุษย์ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตได้อย่างสมบูรณ์และตลอดไป พระองค์ลงมาเกิดในโลกนี้ ทรงถูกตรึงจนตายที่ไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้มนุษย์เพียงครั้งเดียวเป็นพอ (ประมาณ ค.ศ.33) ทรงย้อนกลับไปแก้ไขปัญหาให้มนุษย์ทั่วโลกตั้งแต่เริ่มสร้างโลก สิ่งที่อาดัม เอวา มนุษย์คู่แรกได้ทำผิดต่อพระเจ้าไว้ที่กลายเป็นความบาปติดตัวสืบสายมายังมนุษย์ทุกคน รวมทั้งความบาปผิดที่ผมทำมาตั้งแต่เกิดจนถึงความพลาดพลั้งที่อาจเกิดในอนาคต
ชีวิตมนุษย์รับการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงใหม่โดยพระเยซูคริสต์แล้ว ! พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ทรงอยู่เหนือกาลเวลา ทรงเป็นอมตะ ทรงฤทธานุภาพที่ไม่มีขอบเขตจำกัด และยังทรงรักห่วงใยต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้างด้วยความเมตตา ทรงบริสุทธิ์ ทรงยุติธรรม ดังนั้นพระองค์จึงทรงช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากโทษทัณฑ์ของความบาป คือความตายทั้งกายและวิญญาณนั้นได้
โดยความเชื่อ และไว้วางใจในพระนามพระเยซู พระองค์สามารถย้อนอดีตกลับไปแก้ไขปัญหาความบาปผิดในชีวิตของคุณและผมได้ ทั้งสิ้นนี้เกิดขึ้นจากพระเจ้า(2คร.5.16-21) โดยพระคุณเพราะความเชื่อไม่ใช่เพราะเราทั้งหลายกระทำเอง (อฟ.2.8-10)
เครื่องบินอาจพาคุณย้อนเวลาตามเข็มนาฬิกา แต่ไม่อาจย้อนไปแก้ไขปัญหาในชีวิตได้ พระเยซูคริสต์เท่านั้นที่ช่วยคุณได้...!! รีบจองตั๋วฟรี ได้ที่พระนามพระเยซู โดยเชื่อและยอมรับพระองค์ด้วยปากและใจของคุณเอง...
คือว่าถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า
และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด
เพราะว่า การเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด (รม.10:9-10)
คุณพร้อมย้อนเวลา เพื่อหาอนาคตที่ดีกว่ามั้ยครับ !