04 สิงหาคม 2564

ระวัง ! ชีวิตตกรุ่น โดย บัณฑิต ดาแว่น

 

คิดอย่างบัณฑิต

ระวัง ! ชีวิตตกรุ่น  โดย บัณฑิต ดาแว่น

 

เมื่อผมต้องหาซื้ออะไหล่คอมพิวเตอร์ที่ใช้มาเกือบสิบปี  เข้าไปร้านไหน เขาก็บอกว่า “ไม่มีรุ่นนี้ครับ”  แถมบางคนยังบอกด้วยเสียงเย้ยหยันว่า “เขาไม่ใช้กันแล้วพี่” (นึกในใจ แต่ผม (...) ยังใช้อยู่) จากนั้นต้องกลับบ้านและค้นหาต่อจากอินเตอร์เน็ต ผลลัพธ์เหมือนกันคือ หาอะไหล่ที่ต้องการไม่ได้ สุดท้ายต้องตัดใจซื้อรุ่นที่ใหม่กว่ามาใช้แทน ผมเองต้องฝึกเป็นนายช่างถอดเปลี่ยน ตั้งค่าระบบทุกอย่างด้วยตนเองด้วยอาการสั่นๆ นิดๆ เพราะยังมือใหม่หัดซ่อม 

นี่เป็นประสบการณ์หลายครั้งเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมทั้งโทรศัพท์ ที่มักถูกปฏิเสธการซ่อมจากร้าน เพราะ “มันตกรุ่นไปแล้ว” !

ชีวิตของคุณตกรุ่น หรือไม่ ?  คอมพิวเตอร์ตกรุ่นยังพอเปลี่ยนได้ แต่หากชีวิตตกรุ่นนั้นอันตราย 

คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องมือทางอีเลคทรอนิกส์ ยังต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ (Upgrade Hardware) และปรับเปลี่ยนโปรแกรม (Program, software) ให้ทันสมัยอยู่เสมอ  หากชีวิตของเราไม่มีการปรับปรุง พัฒนาก็จะล้าหลัง ถึงขั้นใช้งานไม่ได้  

ยิ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วมาก ทุกสามเดือนจะมีรุ่นใหม่ๆ มาให้พิจารณาเสมอ (แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกรุ่นนะ จ่ายไม่ไหวแน่) 

ด้านชีวิตก็เช่นกันต้องเรียนรู้ปรับปรุง พัฒนาอย่างเหมาะสม ยิ่งในยุคข้อมูลข่าวสารท่วมหัว หลายคนเอาตัวแทบไม่รอด เพราะมัวแต่กดไลก์ กดแชร์ แต่ไม่ได้ดูว่าจริงหรือเท็จ (ยกเว้น “คิดอย่างบัณฑิต” ถ้าชอบให้กดไลก์ และถ้าตรงใจให้กดแชร์)

คนของพระเจ้าจำเป็นต้องพัฒนาชีวิตอย่างน้อยสามด้าน

หนึ่ง ด้านความรู้ความเข้าใจในพระวจนะ ที่ควรจะสื่อสารในการเทศน์ สอน ประกาศอย่างเข้าถึงเข้าใจต่อผู้คนได้อย่างมืออาชีพ อย่างพระเยซูที่สั่งสอนด้วยสิทธิอำนาจ ประชาชนต่างอัศจรรย์ใจในคำสั่งสอนนั้น หาเหมือนพวกธรรมาจารย์ในยุคนั้นไม่ (มัทธิว 7.28-29)

สอง ด้านความรู้ความเข้าใจในสังคมโลก ควรจะสามารถสนทนา สื่อสารกับคนอย่างรู้เรื่องรู้ใจ คือคุยได้ทั้งทางโลกและทางธรรม อย่างพระเยซูจับคู่สนทนากับคนหลายหลายประเภทได้อย่างจับใจ ตั้งแต่ระดับสามัญชนถึงคนชั้นสูง อย่างอาจารย์เปาโลที่กล่าวว่ายอมเป็นคนทุกชนิดเพื่อจะช่วยคนเหล่านั้นได้(1 โครินธ์ 9.20-23)

สาม ด้านความรู้ความเข้าใจในวิชาชีพ  ควรจะฝึกฝนพัฒนาให้สามารถดูแลตนเองและช่วยคนอื่นได้ นอกจากจะเป็นช่องทางในการเลี้ยงชีพแล้ว ยังสามารถเป็นสะพานเชื่อมโยงไปถึงผู้คนได้อย่างดีด้วย  โลกทุกวันนี้ทำอาชีพเดียวอยู่ยากแล้ว ต้องเป็นสารพัดช่าง (Polytechnic) หรือทำได้หลายหน้าที่(Multifunctional) สังเกตว่าคนรุ่นใหม่จะทำงานแบบอิสระมากขึ้น (Freelance) 

ศิษยาภิบาลอเมริกันกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ประกอบวิชาชีพและรับใช้ในคริสตจักรไปควบคู่กัน (Bi-vocational Pastor) แต่ไม่ใช่พวกไบโพล่าร์นะ(Bipolar) ฮะๆๆๆ

พฤติกรรม นิสัย อารมณ์ คำพูด ข้อเขียน หรือหลายอย่างก็ควรจะปรับเปลี่ยนได้แล้ว ต้องรับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้าเพื่อจะเป็นภาชนะที่ใช้การได้อยู่เสมอ (โรม 12.1-2, 1โครินธ์ 9.27)


อย่าให้ชีวิตต้องตกรุ่น จนต้องถูกทิ้งไปในถังขยะอย่างคอมพิวเตอร์เก่าๆ ของผมเลย


ฝากไว้ให้คิด  เพื่อชีวิตที่มีคุณภาพ


เห็นด้วยมั้ยครับ ?