26 เมษายน 2563

พระเจ้าห่วงใยคุณมากเพียงใด - How much God care for you. โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต


พระเจ้าห่วงใยคุณมากเพียงใด
 How much God care for you.
โดย บัณฑิต  ดาแว่น 

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ หรือ บางคนเริ่มใช้คำว่า “ความปกติแบบใหม่” (New normal) ที่ยังต้องปรับตัวกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป และคงไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้ 
จะผ่านไปได้อย่างไร?
จะมั่นใจได้อย่างไรว่าพระเจ้ายังควบคุมเหนือสถานการณ์เหล่านี้ ? 
พระเจ้ายังทรงห่วงใยอยู่หรือไม่ ?
และยังมีอีกหลายคำถามที่เกิดขึ้นในสภาวะขาดกำลัง ขาดรายได้  ขาดจากเพื่อนฝูงที่เคยผูกพันใกล้ชิด เคยใช้วิถีชีวิตในการนมัสการในรูปแบบที่คุ้นเคย แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสที่จะทำได้  จะทำอย่างไรดี  เมื่อความเข้มแข็งที่มีเริ่มถดถอย ?

พระเจ้ายังห่วงใยในชีวิตของเราเสมอ

พระคำของพระเจ้ายังยืนยัน
จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์   เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย -I Peter 5:7
พระเจ้าทรงห่วงใยมนุษย์มากกว่าทูตสวรรค์จึงให้พระเยซูมาเป็นมหาปุโรหิตที่ทรงสละพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
ความจริง   พระองค์มิได้ทรงเป็นห่วงทูตสวรรค์   แต่ทรงเป็นห่วงพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม เหตุฉะนั้นพระองค์จึงทรงต้องเป็นเหมือนกับพี่น้องทุกอย่าง   เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงเป็นมหาปุโรหิต   ผู้กอปรด้วยความเมตตาและความสัตย์ซื่อ   ในการกระทำกิจกับพระเจ้า   เพื่อลบล้างบาปของประชาชน เพราะเหตุที่พระองค์ได้ทรงทนทุกข์ทรมานและถูกลองใจ   พระองค์จึงทรงสามารถช่วยผู้ที่ถูกลองใจได้
Hebrews 2:16-18
มารีย์ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยความยินดีว่าพระเจ้าทรงห่วงใยในคนต่ำต้อยและทุกข์ยากอย่างเธอ
เพราะพระองค์ทรงห่วงใยฐานะอันยากต่ำแห่งทาสีของพระองค์  
เพราะนั่นแหละ   ตั้งแต่นี้ไปคนทุกชั่วอายุจะเรียกข้าพเจ้าว่าผาสุก
-Luke 1:48 
พระเยซูยืนยันความห่วงใยต่อแกะของพระองค์ในฐานะเป็นผู้เลี้ยงที่ดีที่พร้อมสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือ
เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี   ผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ ผู้ที่รับจ้างมิได้เป็นผู้เลี้ยงแกะ   และฝูงแกะไม่เป็นของเขา   เมื่อเห็นสุนัขป่ามาเขาจึงละทิ้งฝูงแกะหนีไป   สุนัขป่าก็ชิงเอาแกะไปเสีย   และทำให้ฝูงแกะกระจัดกระจายไป เขาหนีเพราะเขาเป็นลูกจ้างและไม่เป็นห่วงแกะเลย -John 10:11-13
ชีวิตของเรามีค่ายิ่งกว่านก พระเจ้าทรงห่วงใยแน่นอน
จงดูนกในอากาศ   มันมิได้หว่าน   มิได้เกี่ยว   มิได้ส่ำสมไว้ในยุ้งฉาง   แต่พระบิดาของท่านทั้งหลาย   ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงนกไว้   ท่านทั้งหลายมิประเสริฐกว่านกหรือ  -Matthew 6:26
ชีวิตของเรามีค่ายิ่งกว่าดอกไม้ เหตุไฉนพระเจ้าจะไม่ห่วง
ท่านกระวนกระวายถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม   จงพิจารณาดอกไม้ที่ทุ่งนาว่า   มันงอกงามเจริญขึ้นได้อย่างไร   มันไม่ทำงาน   มันไม่ปั่นด้าย แต่เราบอกท่านทั้งหลายว่ากษัตริย์ซาโลมอนเมื่อบริบูรณ์ด้วยสง่าราศี   ก็มิได้ทรงเครื่องงามเท่าดอกไม้นี้ดอกหนึ่ง แม้ว่าพระเจ้าทรงตกแต่งหญ้าที่ทุ่งนาอย่างนั้น   ซึ่งเป็นอยู่วันนี้และรุ่งขึ้นต้องทิ้งในเตาไฟ   โอ   ผู้มีความเชื่อน้อย   พระองค์จะไม่ทรงตกแต่งท่านมากยิ่งกว่านั้นหรือ 
- Matthew 6:28-30
พระเจ้าทรงทราบความทุกข์ยากและความต้องการของชีวิต
...แต่ว่าพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่า   ท่านต้องการสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ 
- Matthew 6:32

ควรทำอย่างไรต่อไปดี เมื่อรู้แล้วนี่ว่าทรงห่วงใย !

อย่ากระวนกระวายมากเกินกว่าเหตุ
“เหตุฉะนั้น   เราบอกท่านทั้งหลายว่า   อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่า   จะเอาอะไรกิน   หรือจะเอาอะไรดื่ม   และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่า   จะเอาอะไรนุ่งห่ม   ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหารมิใช่หรือ   และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ-Matthew 6:25
จงใส่ใจแสวงหาสิ่งที่สำคัญกว่า คือการให้พระเจ้าครอบครองชีวิต ยอมอุทิศตัวเพื่อแผ่นดินของพระองค์
แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า   และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน   แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้   -Matthew 6:33
ไว้วางใจในพระเจ้าวันต่อวัน อย่าให้ความกังวลเพิ่มความทุกข์ทนในวันนี้อีกเลย

 “เหตุฉะนั้น   อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้   เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง   แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว  -Matthew 6:34

เพื่อนชาวอเมริกัน แบ่งปันแนวคิดของเขาให้ฟังว่า ชีวิตของเราพระเจ้าโปรยด้วยพรมชั้นดี เพื่อที่เราจะเหยียบย้ำไปในทางของโลกนี้  ลองก้มลงดูพื้นที่เราเดินไปสิ มีทั้งหญ้าเขียวสวย มีทั้งดอกไม้นานาพันธุ์  พระเจ้าทรงสร้างมันให้อยู่ใต้เท้าของมนุษย์  แล้วอย่างนี้จะพูดได้อย่างไรว่า ชีวิตมิได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะไม่ใช่แค่กลีบกุหลาบที่ถูกเด็ดออกมาจากต้น แต่พระเจ้าให้ต้นหญ้าเขียวสด และดอกที่สวยสดงดงามให้เราเดินไปเสมอ  เพียงแต่เราจะใส่ใจต่อความห่วงใยของพระเจ้าหรือไม่เท่านั้นเอง

แฟรงค์ กราเอฟ (1860-1919)  ผู้ประพันธ์บทเพลง “พระเยซูทรงห่วงข้าหรือไม่” ได้ตั้งคำถามว่า
 พระเยซูทรงห่วงข้าหรือไม่ ...เมื่อยามเจ็บปวดรวดร้าว ทุกข์ใจ ไร้ความมั่นคงในชีวิต
...เมื่อยามโดดเดี่ยว ว้าเหว่ใจ  เกิดภัยพิบัติ ขาดคนเข้าใจ
...เมื่อยามคนที่รักจากไป ความโศกเศร้ารุมเร้าดวงใจ
เมื่อยาม...
คำตอบที่เขาได้รับคือ...พระเจ้าทรงห่วงใยอย่างแน่นอน !!
“พระองค์ทรงห่วง...พระองค์ทรงห่วง  เมื่อข้าเศร้าพระองค์ทรงห่วง
                        กลางวันอ่อนระอาใจ  กลางคืนอ่อนล้ากาย  ข้ารู้  พระองค์ทรงห่วง”


(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)