15 พฤษภาคม 2562

เก็ธเซมาเน : Gethsemane โดย บัณฑิต ดาแว่น


 คิดอย่างบัณฑิต...ข้อคิดจากอิสราเอล
เก็ธเซมาเน : Gethsemane
One way Jesus
โดย บัณฑิต ดาแว่น

 ณ สวน เก็ธเซมาเน (หรือ เกทเสมนี) พระเยซูสำแดงความแน่วแน่ในการตัดสินใจตามพระทัยพระบิดาที่ทรงใช้พระองค์ในฐานะพระบุตรมาตายเพื่อไถ่บาปให้มวลมนุษย์  ตามแผนการอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่ก่อนสร้างโลก (อฟ1.3-8, มธ.26.36-46)
มีทางเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยมวลมนุษย์ที่ทรงรักให้รอดพ้นจากบาปผิด และผ่านพ้นบึงไฟนรกไปได้ (กจ.4.12) และถ้าไม่มีโลหิตไหลออกก็จะไม่มีการไถ่บาปได้  แต่โดยพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้ช่วยให้รอดผู้ประเสริฐ พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งสำเร็จแล้ว ตามแผนการพระบิดา (ฮบ.9.22)
"ฮาเลลูยาห์ สรรเสริญพระเจ้า และขอบพระคุณพระองค์"

การตัดสินใจในสวนเก็ธเซมาเน ไม่ใช่เรื่องง่าย หมายถึงการตัดสินใจเลือกระหว่าง "การมีชีวิตอยู่" หรือ "ตาย"       ...แล้วใครละอยากตาย ? 
พระเยซูแม้ในฝ่ายวิญญาณเป็นพระเจ้า แต่ในฐานะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ยังต้องเผชิญกับความกดดันอย่างแสนสาหัส ถึงขั้นเหงื่อไหลกลายเป็นเลือด(ลก.22.44)  พระองค์ทนสู้กับความรู้สึกของตนเองระหว่าง "ตามใจตน" กับ "ยอมอดทนเพื่อคนที่พระบิดาทรงรัก" ซึ่งก็คือ คุณและผม  สุดท้ายพบว่าพระองค์เลือกตามใจพระบิดา ยอมถูกฆ่าอย่างไร้ความผิด ยอมอุทิศชีวิตเลือดเนื้อเพื่อเราผู้เป็นคนบาปอย่างเหลือจะพรรณนา
ทรงอธิษฐานตั้งสามครั้งว่า... “ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์   ถ้าถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์ไม่ได้   และข้าพระองค์จำต้องดื่มแล้ว   ก็ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์” (มธ.26.42)

Gethsemane = An oil press หมายถึง การบีบกดเอาน้ำมันออกมา  สวนเก็ธเซมาเนอยู่บริเวณภูเขามะกอกเทศใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ปัจจุบันยังเต็มไปด้วยต้นมะกอกเทศที่มีอายุนับพันปี จึงเชื่อว่าเป็นการบีบน้ำมันมะกอกซึ่งเป็นผลผลิตที่ขึ้นชื่อของอิสราเอล เครื่องบดน้ำมันมะกอกทำจากหินบะซอลต์มีสองส่วนคือ ฐานและล้อบด ฐานเป็นรูปวงกลมใหญ่เป็นร่อง มะกอกจะถูกนำมาวางลงในร่องนี้ แล้วหมุนล้อบดที่ทำจากหินหนักทับไปบนมะกอกเพื่อบีบเอาน้ำมันออกมา  น้ำมันมะกอกถูกนำมาใช้ในการทำอาหาร การรักษาเยียวยาหลายเรื่อง และที่สำคัญนำไปใช้ทางพิธีกรรมในพระวิหาร  เป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูง 
(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

น่าสังเกตคือกว่าจะได้น้ำมันออกมา ต้องผ่านการบีบ กด ทับ จนผลมะกอกแตกสลายกลายเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าและบริสุทธิ์  ซึ่งพระเยซูคริสต์อยู่ในสถานการณ์นั้นที่สวนเก็ธเซมาเน คือยอมสละพระองค์เอง ที่จะถูกเฆี่ยน ถูกทรมาน ถูกตบหน้า ถูกถ่มน้ำลายใส่ ถูกด่า ถูกประจาน จนกระทั่งถูกตรึงที่กางเขนจนมรณา เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าและมีคุณค่าพอที่จะชำระล้างบาปมลทินของทุกคนได้
เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่าย แต่ทรงตั้งใจอย่างแน่วแน่ ไม่ยอมแพ้แก่ใจตนเอง  เลือกทางถูก ไม่ใช่ทางผิด หรือทางพ้นของตนเอง  แม้ในเวลานั้นสาวกที่ใกล้ชิดยังไม่เข้าใจ พวกเขาง่วงนอน ลืมตาไม่ขึ้น พระองค์บอกว่า เราเป็นทุกข์แทบตาย แต่พวกสาวกยังหลับสบายไม่สนใจแม้แต่น้อย 
ถึงกระนั้นพระเยซูยังทรงแข็งแกร่ง สำแดงความรัก ความเมตตาเสมอมา  เฉกเช่นชีวิตของคุณและผมในทุกวันนี้ ที่หลายครั้งไม่สนใจ ไม่แยแสถึงความเป็นไปในชีวิต และการเสียสละของพระเยซูคริสต์ว่ามีคุณค่ามากเพียงใด  โดยใช้ชีวิตแบบไม่ลืมหูลืมตา ไขว่คว้าแต่สิ่งที่ตนต้องการ จนลืมทำงานที่ชอบพระทัยพระเจ้า แต่พระเยซูยังให้โอกาสเสมอ

ดังนั้น..."อย่าให้ข้าลืมเก็ธเซมาเน  อย่าให้ข้าลืมความทรมาน อย่าให้ข้าลืมความรักอ่อนหวาน โปรดนำไปถึงกางเขน...."  (เพลงชีวิตคริสเตียน โปรดนำไปถึงกางเขน หน้า 215)
 
"เก็ธเซมาเน วันเวย์จีซัส..."  Gethsemane...One way Jesus  พระเยซูคริสต์ใช้ชีวิตแบบวันเวย์เท่านั้น คือ มุ่งทำตามพระทัยพระบิดาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่หันเหไปตามใจตนเอง  ด้วยเหตุนี้จึงมีวันที่คุณและผม มีความชื่นชม เพราะพระองค์ยอมทุกข์ระทมเพื่อบาปทั้งสิ้นแล้วนั่นเอง !!

มีเพียงพระเยซูทางเดียวเท่านั้น วันเวย์จีซัส (One way Jesus) ที่จะทรงหันเหชีวิตของเราจากบึงไฟนรก สู่สวรรค์สถานคือบ้านของพระบิดาได้อย่างนิรันดร์ 
พระเยซูทรงตัดสินใจแล้วตั้งแต่เริ่มต้นและสำแดงชัดเจนที่สวนเก็ธเซมาเน !

คุณเชื่อและยอมรับเช่นนั้นมั้ยครับ ?