17 พฤษภาคม 2562

Praying at wailing wall อธิษฐานที่กำแพงร้องไห้ โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต...ข้อคิดจากอิสราเอล

Praying at wailing wall อธิษฐานที่กำแพงร้องไห้

โดย บัณฑิต ดาแว่น

จุดสำคัญของการไปเยือนอิสราเอล ดินแดนแห่งพันธสัญญาครั้งนี้อีกแห่งคือ  การได้ไปอธิษฐานที่กำแพงร้องไห้(Wailing wall) หรือ กำแพงตะวันตก (Western Wall) เป็นกำแพงสูงใหญ่ด้านทิศตะวันตกของเนินพระวิหาร หรือภูเขาโมรียาห์ซึ่งเป็นที่ตั้งของโดมครอบหิน(Dome of the Rock) ที่เป็นสุเหร่ามุสลิม กำแพงตะวันตกน่าจะเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของชาวยิวในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการที่คนอิสราเอลได้หวนกลับคืนสู่แผ่นดินพันธสัญญา เป็นสักการสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของคนยิว และเป็นที่นมัสการและอธิฐานภาวนาสำหรับคนทั่วไป


กำแพงนี้เป็นส่วนที่เหลือจากกำแพงพระวิหารหลังที่สอง ที่สร้างเริ่มขึ้นตั้งแต่ ศตวรรษที่ 6 ก่อน ค.ศ. ในปีที่ 37 ก่อน ค.ศ. เฮโรดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของชาวยิว พระองค์ได้ปรับปรุงกรุงเยรูซาเล็มให้สวยงาม และสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ให้ใหญ่โตกว่าและสวยงามกว่าพระวิหารของกษัตริ์โซโลมอน เพื่อเป็นการเอาใจชาวยิว นี่คือพระวิหารที่อยู่ในช่วงเวลาที่พระเยซูคริสต์ดำเนินพันธกิจในโลกนี้ ปี ค.ศ. 70 กรุงเยรูซาเล็มและพระวิหารถูกจักรรดิติตัสทำลายหมดสิ้น คงเหลือไว้แต่กำแพงล้อมรอบวิหารที่สร้างด้วยก้อนหินขนาดใหญ่มาก เราจึงได้เห็นก้อนหินที่มีอายุสองพันกว่าปีที่นี่  หลังสงครามปลดปล่อยอิสราเอล ชาวยิวประกาศตั้งรัฐอิสราเอล ในปี ค.ศ. 1948 โดยมีเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง แต่ส่วนที่เป็นเมืองเก่าอยู่ในส่วนยึดครองของประเทศจอร์แดน ชาวยิวถูกห้ามเข้ามาที่กำแพงตะวันตก จนกระทั้งอิสราเอลชนะสงคราม 6 วันต่อประเทศอาหรับ และได้ปกครองเยรูซาเล็มทั้งหมด ชาวยิวจึงเข้ามาที่กำแพงตะวันตกเพื่อนมัสการและสวดภาวนาได้

การเข้าไปบริเวณพระวิหารและกำแพงร้องไห้ ต้องเข้าคิวยาวเหยียด ผ่านการตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัยอย่างเข้มงวด  คณะของเราเดินขึ้นไปทางประตูขยะ ซึ่งเป็นประตูโบราณที่พวกเขานำขยะมาทิ้งช่องทางนี้  การเข้าไปอธิษฐาน ต้องแยกชายหญิงตามโซนที่ธรรมเนียมยิวปฏิบัติ  ผู้ชายต้องสวมหมวกอธิษฐานถือเป็นการให้เกียรติและสำนึกว่าพระเจ้าปกเกล้าเหนือหัวอยู่เสมอ ส่วนผู้หญิงไม่ต้องเพราะมีผมยาวคลุมแล้ว

ผมพบว่า... กำแพงไม่ได้ร้องไห้ แต่ผมต่างหากที่กำลังร้องไห้... ขณะเข้าไปยืนยกมือสองข้างแตะผนังกำแพงที่เป็นก้อนหินเก่าแก่ หลับตาภาวนา คิดถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้สรรค์สร้างทุกสิ่งขึ้นมา และเลือกสรรคนอิสราเอลให้เป็นตัวแทนเพื่อแผนการไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์ 

ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ผมจะอธิษฐานอย่างไรดี และอธิษฐานเรื่องอะไร ถึงจะเป็นคำอธิษฐานที่ดีที่สุด และเกิดผลสูงสุด  ในขณะที่น้ำตากำลังคลอ ก็รำพึงอธิษฐานออกมาด้วยเสียงเบาๆและสั่นเครือเล็กน้อยด้วยใจปลาบปลื้มในพระคุณพระเจ้าที่ให้มาถึงที่นี่  ก่อนจะอธิษฐานเรื่องอื่นๆ ผมเริ่มต้นที่คำอธิษฐานที่พระเยซูตรัสสอนดังนี้

ท่านทั้งหลาย จงอธิษฐานตามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ

ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก

ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้

และขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษผู้ที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น

และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้พ้นจากซึ่งชั่วร้าย       

เหตุว่าราชอำนาจ และฤทธิ์เดช และพระสิริเป็นของพระองค์สืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน (มัทธิว 6.9-13)



เชื่อว่านี่เป็นคำอธิษฐานที่ครอบคลุมทุกเรื่องในชีวิตแล้ว  คือ ได้ ...

·      สรรเสริญ พระเจ้าพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์  ได้ยกย่องพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ ผู้ทรงสมควรเทิดทูน

·      สนองต่อ  พระทัยของพระเจ้า ที่ทรงทำสำเร็จในสวรรค์แล้ว และขอให้สำเร็จในชีวิตและในโลกนี้ด้วย

·      สนิทสนม และพึ่งพาในพระบิดาที่สามารถเลี้ยงดูชีวิตได้ทุกวัน

·      สารภาพ บาปผิด และคิดการยกโทษแด่ผู้อื่นด้วยความเมตตาและความรักจากพระเจ้า

·      เสนอ  ขออย่าให้เผชิญกับอุปสรรคปัญหาและสิ่งชั่วร้ายโดยไม่จำเป็น

·      สนอง ต่อแสนยานุภาพที่มีอยู่ในพระองค์ทั้งสิ้นแล้ว  ทุกสิ่งเป็นไปได้โดยพระเจ้า


และผมลงท้ายคำอธิษฐานด้วย พระนามพระเยซูคริสต์เจ้า...อาเมน
รู้สึกมีความสุขใจ อิ่มเอิบใจ และมั่นใจอย่างยิ่ง ถอยหลังออกมา นั่งเก้าอี้และพิจารณาชีวิตอีกครั้ง พร้อมมองไปรอบๆ เห็นผู้คนกำลังอธิษฐานด้วยท่าทีอันสงบและมีพลัง จนกระทั่งได้เวลาเดินทางไปทานมื้อเที่ยงบนยอดเขา ที่กลายเป็นราชวังของกษัตริย์เฮโรดผู้ยิ่งใหญ่ที่บัญชาให้บูรณะพระวิหารอย่างตระการตานั่นเอง



ข้าแต่พระเจ้าพระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์ และการรำพึงภาวนาในจิตใจ เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์เถิด (สดด19.14)