17 ตุลาคม 2554

“ความเชื่อ ความหวัง ความรัก” โดย บัณฑิต ดาแว่น

คิดอย่างบัณฑิต  โดย บัณฑิต  ดาแว่น 

“ความเชื่อ  ความหวัง ความรัก”

ประเทศไทยต้องเผชิญวิกฤติน้ำท่วมใหญ่เป็นเวลานาน  นับตั้งแต่เดือนกันยายน จนจะย่างเข้าสู่พฤศจิกายนแล้ว ดูเหมือนสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายไปมากนัก แม้หลายฝ่ายจะพยายามทุ่มเททรัพยากรทุกประเภท เพื่อสู้ และกู้วิกฤติครั้งนี้  ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นกว้างใหญ่เหลือเกิน  คาดว่าต้องใช้เงินจำนวนนับแสนล้าน และต้องใช้เวลานาน กว่าที่จะเยียวยา ฟื้นฟู ให้กลับคืนสู่สภาพดีดังเดิมได้  หลายอย่างหากเป็นทรัพย์สิ่งของอาจจะพอทนรอได้ แต่ชีวิตของผู้คนที่ต้องอยู่ ต้องกิน ต้องดำเนินต่อไปนั้น ยากที่จะรอคอยเวลาหรือสิ่งใดๆ เพราะแหล่งงาน แหล่งทรัพยากรที่เคยหล่อเลี้ยงชีวิตวันต่อวันที่ผ่านมาก็จมอยู่ใต้น้ำเช่นกัน 
หากต้องเผชิญกับปัญหาเพียงชั่วครู่ ชั่วครั้ง ชั่วคราว มาแล้วก็ผ่านไป คงไม่ทำให้สภาพจิตใจบอบซ้ำมากนัก แต่นี่เป็นเวลาที่ต่อเนื่องยาวนาน หายครั้ง หลายหน จนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ! ...จน เครียด แล้วต่อไปจะทำอย่างไรดีละ !  ปัญหามันมาทับถมจนจมลงไปหมดทั้ง บ้าน เรือน ไร่ นา ข้าว ปลา อาหาร โรงงาน สถานที่พักผ่อน แหล่งทำกิน ที่ดินเพาะปลูก  ทั้งลูก ภรรยา สามี ญาติพี่น้อง ทำได้เพียงนั่งมองน้ำที่มันเอ่อล้นและไหลไปมาเอื่อยๆ อย่างเนิ่นนาน  กลางวันมันช่างร้อนรุ่ม กลางคืนก็มืดมนแทบจะทนไม่ไหว  ท่ารถกลายเป็นท่าเรือ ทิศเหนือ หรือใต้ไม่ต่างกัน ที่นี่ ที่นั่น ที่โน่น ก็เต็มไปด้วยน้ำ น้ำ และน้ำ... สายตาที่ทอดออกไปเหมือนไร้จุดหมายปลายทางไปหมด
ขอพระเจ้าเมตตาประเทศไทย   ขอให้คนไทยได้มีความหวัง กำลังใจ ให้สามารถผ่านพ้นภัยพิบัติเหล่านี้ไปได้  ขอทรงเป็นความอุปถัมภ์ ค้ำชู ช่วยกู้วิกฤติ  ช่วยนำชีวิตของทุกคนไปในทางแห่งสันติสุข และความหวังในพระองค์  เพราะเชื่อว่า  แม้ท่ามกลางหุบเขาเงามัจจุราช พระเจ้ายังทรงดำเนินอยู่เคียงข้างประชากรของพระองค์เสมอ (สดด.23.4)  พระวจนะของพระเจ้ายังเป็นความจริง  เราสามารถเข้ามาพักพิงทั้งชีวิต จิตใจในพระเจ้าได้ทุกเวลา
แม้จะต้องสูญเสียทุกสิ่ง แต่สิ่งสำคัญที่ยังต้องคงไว้ นั่นคือ “ความเชื่อ ความหวัง และความรัก”  เพราะ 3 สิ่งนี้จะยังคงอยู่  ที่เราสามารถยึดมั่นไว้ในทุกสถานการณ์ 
ขอให้มี “ความเชื่อ” ในพระเจ้าผู้ทรงพระคุณ และเมตตา ผู้ทรงรักษาพระสัญญา และรักทุกชีวิตที่ทรงสร้างมาด้วยฝีพระหัตถ์ จนกระทั่งประทานพระบุตรองค์เดียวคือพระเยซูคริสต์มาพลีพระชนม์เพื่อเรา เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3.16)
ขอให้มี “ความหวัง” หวังใจในพระเจ้าพระผู้สร้าง ทรงจัดเตรียมหนทางที่ดีเสมอ หวังใจในพระเยซูผู้สละพระองค์เองเพื่อคนทั้งปวง ทรงตายเพื่อไถ่บาป ทรงเป็นขึ้นเพื่อยืนยันความเป็นพระเจ้า และสัญญาว่าจะกลับมารับทุกคนที่เชื่อไปอยู่กับพระองค์อย่างมีศักดิ์ศรีนิรันดร์อันหาที่เปรียบไม่ได้ (ยน.14.1-6,2คร.4.16-18) และยังทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นมัดจำ ว่าจะทำทุกสิ่งที่สัญญาแน่นอน (อฟ.1.13-14)
ขอให้มี “ความรัก” อันยิ่งใหญ่ รักกันฉันพี่น้อง รักกันด้วยจริงใจ ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่กัน  ดังพระเจ้าที่สำแดงความรักประเสริฐนี้แก่ทุกคนก่อนแล้ว(1ยน.4.9)  เป็นความรักที่ประทานให้ในยามที่เราหมดหวัง หมดแรงกำลัง  คือ ยังทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากบาปชั่วแม้ตัวเราช่วยตัวเองไม่ได้ (โรม 5.6-17)

“ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง   คือ ความเชื่อ   ความหวังใจ   และความรัก
แต่ความรักใหญ่ที่สุด” (1โครินธิ์ 13.13)



            ขอให้ 3 สิ่งนี้อยู่ในชีวิตของพี่น้องทุกคนด้วยเทอญ...