12 กันยายน 2558

ความมั่นใจที่ผู้รับใช้พระเจ้าควรมี (1) โดย ศจ.บัณฑิต ดาแว่น

  คิดอย่างบัณฑิต  
โดย  ศจ.บัณฑิต  ดาแว่น 

ตอน...
ความมั่นใจในการทรงเรียก

ความมั่นใจที่ผู้รับใช้พระเจ้าควรมีและยึดมั่น เพื่อการรับใช้ที่ถวายเกียรติ ยืนหยัดอยู่ได้จนถึงวันสุดท้าย...
1.  ความมั่นใจในการทรงเรียก
            การทรงเรียกของพระเจ้าต่อผู้รับใช้นั้นมีความสำคัญ ผู้รับใช้พระเจ้าควรมีความมั่นใจว่าพระเจ้าทรงเรียกให้รับใช้อย่างชัดเจนหรือไม่  เพราะการรับใช้นั้นไม่ใช่ทำตามความต้องการของมนุษย์แต่เป็นการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า พระเจ้าทรงเรียกผู้รับใช้ให้ตอบสนองพระประสงค์ของพระองค์ทั้งงานเฉพาะเจาะจงและงานทั่วไป  สังเกตว่าผู้ที่รับการทรงเรียกนั้นจะมีประสบการณ์โดยตรงกับพระเจ้า ได้รับการสำแดงให้รู้ว่าทรงต้องการให้ทำอะไร 
            พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมในตอนที่เขามีชื่อว่า อับราม โดยให้เขาได้รู้อย่างชัดเจนว่า ต้องทำอะไร ไปที่ไหน และจะเกิดอะไรขึ้น
พระเจ้าตรัสแก่อับรามว่า   “เจ้าจงออกจากเมือง   จากญาติพี่น้อง   จากบ้านบิดาของเจ้า   ไปยังดินแดนที่เราจะบอกให้เจ้ารู้ 2เราจะให้เจ้าเป็นชนชาติใหญ่  เราจะอวยพรแก่เจ้า   จะให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป   แล้วเจ้าจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพร 3เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า  เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า   บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า”   Genesis 12:1-3
            อับราฮัมได้รับการทรงเรียกที่ชัดเจน ให้ทำอะไร... ออกจากเมือง จากญาติพี่น้อง จากบ้านบิดา  ให้ไปที่ไหน...ไปยังดินแดนที่พระเจ้าจะบอกให้รู้  จะเกิดอะไรขึ้น....พระเจ้าสัญญาจะให้อับราฮัม 7  ประการ  ได้แก่  หนึ่ง ให้เป็นชนชาติใหญ่  สอง พระเจ้าจะอวยพร  สาม จะให้มีชื่อเสียงใหญ่โตเลื่องลือไป  สี่ อับราฮัมจะช่วยให้คนอื่นได้รับพร  ห้า พระเจ้าจะอวยพรคนที่อวยพรอับราฮัม  หก พระเจ้าจะสาปแช่งคนที่สาปแช่งอับราฮัม  และ เจ็ด  บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะอับราฮัม
            แม้หนทางการติดตามพระเจ้าและการรับใช้พระองค์จะยาวไกลและเนิ่นนาน ผ่านอุปสรรคนานับปการ แต่อับราฮัมก็พิสูจน์แล้วว่า ท่านยืนหยัดอยู่บนเส้นทางแห่งการทรงเรียกอย่างสัตย์ซื่อ  จนได้ชื่อว่า บิดาแห่งความเชื่อ และด้วยความเชื่อนี่เองพระเจ้าจึงทรงเรียกว่าผู้ชอบธรรม  พระคัมภีร์ยังได้บันทึกถึงพระพร ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง และความพอพระทัยที่พระเจ้าทรงมีต่ออับราฮัมตามพระสัญญาอย่างอัศจรรย์และยิ่งใหญ่มาจนทุกวันนี้ 
            เพราะโมเสส รับการทรงเรียกอย่างชัดเจนและเจาะจงว่าให้ไปนำชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ไปยังดินแดนแห่งพระสัญญา  ท่านจึงยึดมั่นและนำประชากรของพระเจ้านับล้านคนออกไปตามพระบัญชาอย่างอัศจรรย์และยิ่งใหญ่  แม้จะพบอุปสรรคปัญหามากมายจนกระทั่งตัวท่านได้แค่มองดินแดนแห่งพระสัญญาเท่านั้น แต่ท่านยังยืนหยัดอยู่ในเส้นทางแห่งการทรงเรียกอยู่เสมอ
            เพราะเอลียาห์ รับการทรงเรียกให้เผยพระวจนะต่อกษัตริย์อาหับและพระนางเยเซเบล เพื่อชนชาติอิสราเอลจะกลับใจจากความบาปหันกลับมาหาพระเจ้า แม้ท่านต้องหนีหัวซุกหัวซุน และท้อแท้ใจจนอยากตาย แต่ยังยืนหยัดอยู่บนเส้นทางแห่งการรับใช้ตามการทรงเรียก จนกระทั่งส่งต่องานให้เอลีชาศิษย์เอกของท่านอย่างอัศจรรย์และยิ่งใหญ่
            เพราะยอห์น บัพติสมา รู้ว่าพระเจ้าทรงเรียกท่านให้เป็นผู้เตรียมทางของพระเมสสิยาห์ผู้กำลังจะเสด็จมาภายหลังท่าน ยอห์นไม่รีรอในการรับใช้ในหน้าที่ของตน ท่านเริ่มต้นเทศนา ประกาศให้กลับใจเสียใหม่และให้บัพติสมา ท่านกล้าเผชิญหน้ากับคนทุกระดับตั้งแต่สามัญชนจนถึงกษัตริย์ แม้สุดท้ายชีวิตจะถูกคุมขังและถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ แต่ท่านยังยึดมั่นในเส้นทางแห่งการทรงเรียกจนนาทีสุดท้าย
            เพราะเปาโล ได้รับการทรงเรียกอย่างชัดเจนและเจาะจงให้ประกาศพระนามพระเยซูที่ท่านเคยข่มเหงมาก่อนหน้านั้นไปทั่วบรรดาประชาชาติ แม้จะต้องเผชิญความลำบากสารพัด จนกระทั่งถึงชีวิต ท่านยังยืนหยัดอยู่บนเส้นทางการรับใช้อย่างดีเช่นกัน ผลงานการเขียนจดหมายที่กลายมาเป็นหลักการดำเนินชีวิตคริสเตียนมาจนถึงวันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้ว
            ยังมีผู้รับใช้อีกหลายคนที่ได้รับการทรงเรียกและมั่นใจในพระประสงค์ของพระเจ้า ที่ได้พิสูจน์ตนเองให้เห็นมาตลอดทุกยุคสมัย  ในวันนี้คุณและผมในฐานะผู้รับใช้ หากได้รับการทรงเรียกและมั่นใจในพระประสงค์ของพระองค์อย่างแท้จริง ก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้เหมือนบุคคลเหล่านั้นเช่นกัน  คุณเชื่อเช่นนั้นหรือไม่


ติดตามตอนต่อไป...ความมั่นใจในพระวจนะของพระเจ้า
(ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)