21 เมษายน 2562

Victory Sunday...ตามพระเยซูไปให้ถึงชัยชนะ โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต  โดย  ศจ. บัณฑิต  ดาแว่น

Victory Sunday...ตามพระเยซูไปให้ถึงชัยชนะ 

พระเยซูจึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่า   “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา   ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง   และรับกางเขนของตนแบกทุกวัน   และตามเรามา 24เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด   ผู้นั้นจะเสียชีวิต   แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา   ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด 2พราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก   แต่ต้องเสียตัวของตนเองผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร Luke 9:23-25
And he said to all, If anyone would come after me, let him deny himself and take up his cross daily and follow me

อิสเตอร์(Easter)...วันที่พระเยซูเป็นขึ้นจากความตายในเช้าวันอาทิตย์ จึงเรียกวันนี้ว่า Victory Sunday  เป็นช่วงเวลาของเทศกาลปัสกาของชาวยิวที่ระลึกถึงการออกจากการเป็นทาสอียิปต์...นับจากเวลาที่พระเยซูคริสต์ทำทุกอย่างสำเร็จตามแผนการณ์ของพระเจ้า  เทศกาลปัสกากลายมาเป็นการระลึกถึงการตายเพื่อไถ่บาป และการเป็นขึ้นมาเพื่อแสดงถึงชัยชนะเหนือความตาย  ใครก็ตามที่เชื่อและวางใจในพระเยซูคริสต์จะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร์(ยน.3.16)
เทศกาลอิสเตอร์ ได้ดำเนินมา 2019 ปีแล้ว  แต่น่าเสียดายหลายคนไม่เคยเข้าถึง ไม่เคยเข้าใจ และไม่เคยมีประสบการณ์แห่งชัยชนะร่วมกับพระเยซูคริสต์ในชีวิตของตนเองอย่างแท้จริงเลย...เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น ?
สถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับเหล่าสาวกของพระเยซูเช่นกัน ก่อนที่พระเยซูจะทำทุกอย่างสำเร็จ พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมพระเยซูจึงพูดอย่างนั้น ทำไมจึงทำอย่างนั้น เช่น เมื่อพระเยซูตรัสถึงการทนทุกข์ทรงมานของพระองค์ หลังจากการปรากฏกายร่วมกับโมเสสและเอลียาห์บนภูเขา และเมื่อลงมาพวกสาวกขับผีจากเด็กไม่ออก...ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ...เพราะพวกเขาขาดความเชื่อ และความเข้าใจ
พระเยซูตำหนิคนที่ขาดความเชื่อ และมีทิฐิชั่ว (ความคิด และความตั้งใจในความชั่ว)
พระเยซูตรัสตอบว่า   “โอ   คนในยุคที่ขาดความเชื่อและมีทิฐิชั่ว   Luke 9:37-42
สาวกของพระเยซูยังไม่เข้าใจ ไม่กล้าถาม และทำในสิ่งที่ไม่ถูกทาง (แย่งกันเป็นใหญ่)
พระองค์จึงตรัสแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่า  “ท่านทั้งหลายจงให้คำเหล่านี้เข้าหูของท่าน   เพราะว่าบุตรมนุษย์จะต้องถูกอายัดไว้ในมือมนุษย์” แต่คำเหล่านั้นสาวกหาได้เข้าใจไม่   ความก็ถูกซ่อนไว้จากเขา   เพื่อเขาจะไม่ได้เข้าใจ   และเขาไม่กล้าถามพระองค์ถึงคำนั้น  แล้วเหล่าสาวกก็เกิดเถียงกันว่าในพวกเขาใครเป็นใหญ่ Luke 9:42-46

พระเยซูพยายามช่วยให้พวกเขาเข้าใจ เข้าถึง และทำในสิ่งที่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น...ว่าการจะไปให้ถึงเป้าหมายแห่งชัยชนะได้นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง ?  ต้องทำ 3 ต้อง  คือ
หนึ่ง...ต้องเอาชนะตนเองให้ได้   สอง...ต้องรับผิดชอบตนเองให้ได้ และ สาม...ต้องตามพระเยซูไปให้ได้

1. ต้องเอาชนะตนเองให้ได้
พระองค์จึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่า   “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา   ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง   และรับกางเขนของตนแบกทุกวัน   และตามเรามา
เอาชนะตนเอง หมายความว่า ต้องชนะตนเอง...อย่ายอมแพ้  เพราะแต่ละคนมีความเป็นตัวตนของตัวเอง และแนวโน้มของตัวตนของมนุษย์คือ ความชั่ว (ปฐก.6.5)
พระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วช้าของมนุษย์มีมากบนแผ่นดิน   และทรงเห็นว่าเค้าความคิดในใจของเขาล้วนเป็นเรื่อง ร้ายเสมอไป Genesis 6:5
อิสเตอร์ ปีนี้ ต้องเอาชนะความคิดฝ่ายชั่วของตนเองให้ได้ เพราะเค้าโครงความคิดของเรามักชักนำในทางชั่ว  แต่พระคัมภีร์บอกว่าเราสามารถเอาชนะได้  โดยจดจ่อความคิดไปทางทางแห่งความจริง และให้ความคิดของพระเยซูควบคุมความคิดของเราให้ได้  ดังที่อาจารย์เปาโลแนะนำการแก้ไขปัญหาเรื่องความคิดวิตก กังวล และความคิดในการแค้นแค้นชิงชัง การทะเลาะเบาะแว้งกันของผู้เชื่อในคริสตจักรฟิลิป์ปีว่าให้คิดถึงสิ่งที่จริง   สิ่งที่น่านับถือ   สิ่งที่ยุติธรรม   สิ่งที่บริสุทธิ์   สิ่งที่น่ารัก   สิ่งที่ทรงคุณ   คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ   สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ   ก็ขอจงใคร่ครวญ(คิด)ดู  และที่สำคัญคือให้อธิษฐานขอการช่วยเหลือจากพระเจ้า เพื่อให้สันติสุขของพระคริสต์คุ้มครองความคิดจิตใจตามทางของพระเยซู (Philippians 4:6-8)

2.  ต้องรับผิดชอบตนเองให้ได้
พระเยซูใช้คำว่า...รับกางเขนของตนแบกทุกวัน
คำว่า "กางเขน" หมายถึงความตาย  และภาระที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบ  รวมทั้งเป้าหมายในชีวิตที่ต้องถูกตรึงไว้ที่กางเขน  เป็นการทำตามแผนการณ์ของพระเจ้า  คือการยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อพระเจ้า เพื่อผู้อื่น  ดังที่พระเยซูพูดต่อไปในข้อ 24   24เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด   ผู้นั้นจะเสียชีวิต   แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา   ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด
เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง วิธีการของพระเจ้าต้องการให้เราเสียสละก่อนถึงจะได้รับกลับคืน  แต่วิธีของโลกคือยื้อแย่งมาเป็นของตนเองให้ได้ก่อน  พระเยซูบอกว่าการทำอย่างนั้นยิ่งกลับทำให้สูญเสียมากยิ่งขึ้น  ด้วยเหตุนั้นพระเยซูจึงให้คิดถึงตนเอง  รับผิดชอบตนเองให้ได้ ไม่ใช่คิดถึงว่าคนอื่นจะได้มากกว่าหรือน้อยกว่าตนเอง  นั่นไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง  หน้าที่ของตัวเองคือ รับผิดชอบตนเองให้ได้  คือแบกกางเขนของตนเองไว้ (ทุกวัน) บางคนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น จึงไม่ได้รับผิดชอบตนเองเท่าที่ควร
อาจารย์เปาโลสอนว่า ให้รักษาระเบียบวินัย  รักษาเป้าหมาย และทำอย่างเอาจริงเอาจัง เหมือนนักกีฬา ที่มุ่งหวังชัยชนะ และนักมวยที่ต้องฟิตซ้อมเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย
ท่านไม่รู้หรือว่าคนเหล่านั้นที่วิ่งแข่งกันก็วิ่งด้วยกันทุกคน   แต่คนที่ได้รับรางวัลมีคนเดียว   เหตุฉะนั้นจงวิ่งเพื่อชิงรางวัลให้ได้ ฝ่ายนักกีฬาทุกคนก็เคร่งครัดในระเบียบ   เขากระทำอย่างนั้นเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ซึ่งร่วงโรยได้   แต่เรากระทำเพื่อจะได้มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย ส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งโดยมีเป้าหมาย   ข้าพเจ้ามิได้ต่อสู้อย่างนักมวยที่ชกลม  แต่ข้าพเจ้าก็ทุบตีร่างกายให้มันแข็งจนอยู่มือ   เพราะเกรงว่าเมื่อข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนอื่นแล้ว   ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นคนที่ใช้การไม่ได้ I Corinthians 9:24-27

3.  ต้องตามพระเยซูไปให้ได้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บอกกับตัวเองเสมอว่า "ต้องตามพระเยซูไปให้ได้"   นี่คือเคล็ดลับการไปสู่ความสำเร็จ และชัยชนะ  เพราะหากเราตามพระเยซูอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จะได้รับแบบอย่าง กำลังใจ และพลังจากพระเยซูคริสต์ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้
น่าเสียดายที่เบื้องต้นมีผู้คนตามพระเยซูมากมาย แต่พวกเขาไปไม่ถึงไหน เพราะสนใจแต่เรื่องที่จะได้กินอาหารอิ่มจากการเลี้ยงด้วยขนมปังและปลา  บางคนสนใจแค่ต้องการเห็นการอัศจรรย์  บางคนสนใจแค่รักษาประโยชน์ของตนเองเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถตามพระเยซูได้อย่างแท้จริง
ดังนั้นอย่าให้ความสนใจเรื่องปากท้อง เรื่องความพึงพอใจที่ได้เห็นตามที่ต้องการ หรือ การทำเพื่อตนเองฝ่ายเดียวทำให้เราออกจากเส้นทางของพระเจ้าในการตามพระเยซู  แม้มันจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมายในชีวิต แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว อย่าหันหลังกลับเด็ดขาด
พระเยซูตรัสกับเขาว่า   “ผู้ใดเอามือจับคันไถแล้ว   หันหน้ากลับเสีย   ผู้นั้นก็ไม่สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า”  Luke 9:62

อิสเตอร์ ปีนี้ต้องตามพระเยซูไปให้ได้ ไปให้ถึงการเป็นขึ้นมาจากตาย และร่วมเป็นขึ้นมากับพระองค์ให้ได้  เพราะพระเยซูทำสำเร็จแล้ว เพียงแต่เราไปรับความสำเร็จนั้นด้วยตัวเองให้ได้  ดังอาจารย์เปาโลตั้งใจแน่นแน่เสมอว่า... ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จักพระองค์   และได้รับประสบการณ์ในฤทธิ์เดช   เนื่องในการที่พระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น   และร่วมทุกข์กับพระองค์   คือยอมตั้งอารมณ์ตายเหมือนพระองค์ 11ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าก็จะได้เป็นขึ้นมาจากความตายด้วย Philippians 3:10-11

อิสเตอร์...เราจะตามพระเยซูไปให้ถึงชัยชนะ โดย...
+  ต้องเอาชนะตนเองให้ได้ 
+  ต้องรับผิดชอบตนเองให้ได้
+  และต้องตามพระเยซูไปให้ได้

คุณพร้อมจะไปด้วยกันมั้ยครับ ?

                                                                                                                            (ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)