16 ธันวาคม 2562

โหราจารย์... มองดูดาว ก้าวไปหาพระเยซู The wise men...Seek the star walk to Jesus. โดย บัณฑิต ดาแว่น



คิดอย่างบัณฑิต

โหราจารย์... มองดูดาว ก้าวไปหาพระเยซู
The wise men...Seek the star walk to Jesus.
โดย บัณฑิต ดาแว่น

พระเยซูได้ทรงบังเกิดที่บ้านเบธเลเฮมแคว้นยูเดียในรัชกาลของกษัตริย์เฮโรด   ภายหลังมีพวกโหราจารย์จากทิศตะวันออกมายังกรุงเยรูซาเล็ม   ถามว่า “กุมารผู้ที่บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติยิวนั้นอยู่ที่ไหน   เราได้เห็นดาวของท่านปรากฏขึ้น   เราจึงมาหวังจะนมัสการท่าน” ... Matthew 2:1-18

เรื่องราวของบรรดาโหราจารย์เดินตามดวงดาว จากทิศตะวันออกจนกระทั่งได้พบกับพระกุมารเยซูที่หมู่บ้านเบธเลเฮม แผ่นดินยูเดีย  พวกเขาได้ถวายของขวัญพิเศษ ได้แก่ ทองคำ กำยาน และมดยอบ ซึ่งแต่ละอย่างมีความหมายถึงสิ่งที่พระเยซูเป็นและกระทำ  คือ ความเป็นกษัตริย์  เป็นพระเจ้า และเป็นผู้ที่จะตายไถ่บาปมวลมนุษย์ 
โหราจารย์ หรือ เรียกอีกอย่างว่า นักปราชญ์  นักปรัชญา เป็นผู้มีการศึกษา มีสติปัญญา และเสาะแสวงหาความจริงโดยการศึกษาดวงดาว อาจเปรียบได้กับ นักดาราศาสตร์ ที่มีการค้นคว้าและเก็บข้อมูลมาเป็นเวลานาน จากรุ่นสู่รุ่น 
มัทธิวลูกศิษย์ของพระเยซูบันทึกเรื่องนี้ไว้เป็นพิเศษว่าพวกโหราจารย์มาจากทางทิศตะวันออก  หมายถึงตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม แผ่นดินยูเดีย (ประเทศอิสราเอล) อาจกล่าวได้ว่ามาทาง อาณาจักรเปอร์เซีย (อิหร่าน) อินเดีย และอาจยาวมาถึงอาณาจักรสยาม (ไทย) พุกาม (พม่า) ขอม(เขมร) และจีนด้วยก็เป็นได้ เพราะอาณาจักรเหล่านี้ล้วนมีความเชื่อและการศึกษาดวงดาวเช่นกัน เพียงแต่ว่า จะใช้เป็นศาสตร์แห่งดวงชะตาราศรีแบบหมอดู หรือว่า แบบนักปรัชญา ที่ต่อยอดมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ 
นักวิชาการพระคัมภีร์ เชื่อว่า โหราจารย์ ที่เดินตามดวงดาวไปหาพระเยซูนั้น เป็น นักปรัชญา นักดาราศาสตร์ ที่มีความรู้ ความสามารถ และอาจจะเป็นชนชั้นระดับสูง จากเรื่องราวของดาเนียลและเพื่อนๆ ผู้เป็นเด็กหนุ่มจากแผ่นดินยูเดียที่ถูกจับไปเป็นเชลยในกรุงบาบิโลน  ประมาณ 600 ปีก่อนคริสตศักราช  พวกเขาได้รับการศึกษาตามระบบของบาบิโลนและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ  ดาเนียล เป็นผู้เชื่อพระเจ้าพระเยโฮวาห์ ผู้ทรงพระชนม์อยู่องค์เดียวอย่างเข้มแข็งและกล้าหาญ แม้จะถูกจับและบังคับให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามสังคมใหม่ แต่เขายังยืนหยัดเชื่อฟังพระเจ้า จนกระทั่งได้เป็นผู้นำระดับสูงของบาบิโลนซึ่งต่อมากลายมาเป็นอาณาจักรเปอร์เซีย ดาเนียลเป็นหัวหน้าพวกนักปราชญ์ที่คอยให้คำปรึกษาพระราชาต่อเนื่องหลายสมัย  โดยใช้สติปัญญาและความเข้าใจที่มาจากพระเจ้า
โหราจารย์ น่าจะมีจำนวนหลายคน เพราะตามปกติการเดินทางย่อมไปเป็นหมู่คณะมีลูกหาบและสัมภาระพอสมควร การเดินทางเริ่มจากที่เห็นดาวประหลาดปรากฎและพวกเขาน่าจะพบพระกุมารเยซูตอนที่อายุประมาณสองขวบ เทียบกับเหตุการณ์ที่กษัตริย์เฮโรดสั่งประหารเด็กผู้ชายในหมู่บ้านเบธเลเฮมและที่ใกล้เคียงทั้งสิ้น ตั้งแต่สองขวบลงมา เพราะโกรธจัดที่โหราจารย์ไม่ยอมแจ้งข่าวหลังพบพระกุมารเยซูแล้ว (มธ.2.16-19)
โหราจารย์กับดวงดาว การมอบของขวัญอันล้ำค่าแด่พระกุมารเยซู ยังจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติคู่กับเทศกาลคริสตมาสไปตลอดกาล
บทเรียนจากโหราจารย์ สอนให้เห็นความจริงว่า หากเราจดจ้องและศึกษาสิ่งใดอย่างถ่องแท้ และเข้าให้ถึงความจริงของสิ่งนั้น จะได้พบความจริงอันล้ำค่า และพร้อมจะยอมมอบทุกสิ่งที่ล้ำค่าที่มีอยู่ ให้กับองค์พระเยซูผู้สมควรได้รับสิ่งนั้น เพราะพระองค์เลอค่ายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น
ตลอดชีวิต โหราจารย์จดจ่ออยู่กับการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับดวงดาว ไม่เพียงแค่ศึกษาเรื่องดวงดาวที่เป็นวัตถุธาตุว่าคือ “อะไร” แต่กำลังค้นหาว่า “ใคร” ที่อยู่เบื้องหลังการมาปรากฏของดวงดาวนั้น ในที่สุดพวกเขาได้พบเหตุผลว่า “ทำไม” สิ่งที่ลงมือลงแรงตลอดชีวิตนั้นจึงมี “คุณค่า” เมื่อได้พบ “พระเยซู” และมอบของขวัญอันลำค่าแด่พระองค์
เมื่อคุณมองดูดวงดาว มองดูสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่อย่างอัศจรรย์ คุณมองเห็นอะไร และ มองเห็น ใคร ที่อยู่เบื้องหลังนั้นหรือไม่   ?
พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งขึ้นมา ทุกสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็นล้วนมาจากพระองค์  ทรงเปิดทางให้เราได้พบกับพระองค์ผ่านทาง พระเยซูคริสต์ เพื่อเราจะเข้าใจความหมายในชีวิตอย่างมีคุณค่า  อย่ามัวแต่มองสิ่งที่จะเสื่อมสลายไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้าและคิดฟุ้งซ่านไปด้านอื่น ๆ อีกเลย
แต่จง “มอง” ให้เห็น “องค์พระเยซูเจ้า” และก้าวไปเข้าเฝ้าพระองค์พร้อมมอบของขวัญที่ล้ำค่าคือ “ชีวิต” ของคุณที่มีอยู่ ให้พระองค์เถิด
มองดูดาว และมองที่ใจของตัวเองแล้วตอบอย่างจริงใจว่า “มองเห็น...พระเยซู” หรือยัง !

(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)