06 ธันวาคม 2562

ผู้นำกับการตัดสินใจ – Leader and decision โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต
ผู้นำกับการตัดสินใจ – Leader and decision
โดย บัณฑิต ดาแว่น 
“การตัดสินใจ”  เป็นส่วนหนึ่งของการนำ การบริหาร ทั้งในองค์กรทั่วไปและในคริสตจักรของพระเจ้า  ทิศทางของคริสตจักรจะไปในทางใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้มีบทบาทการนำจะเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดเพื่อนำไปสู่การลงมือทำ จากนั้นยอมรับผลที่ตามมาจากการตัดสินใจ
จะตัดสินใจอย่างไร ถึงจะนำคริสตจักรและงานไปสู่ทิศทางที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า?
1.  ตัดสินใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า
การตัดสินใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า เป็นเรื่องสำคัญ เพราะงานที่กำลังทำนั้นเป็นงานของพระเจ้า  ที่เป็นเจ้าของชีวิต เจ้าของคริสตจักร  ดังนั้น จำเป็นต้องแสวงหาความต้องการของพระเจ้าว่าเป็นอย่างไร  การอธิษฐาน เป็นหัวใจสำคัญควบคู่ไปกับการศึกษาพระวจนะอย่างจริงจัง เพื่อจะนำไปสู่การตัดสินใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า  เราเชื่อในการทรงนำของพระเจ้าผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำกิจผ่านทางพระคัมภีร์ ที่เป็นศูนย์รวมของพระประสงค์ของพระเจ้า  ผู้นำ ต้องยึดหลักพระวจนะในการตัดสินใจ และฟังเสียงของพระเจ้าผ่านทางพระคัมภีร์อยู่เสมอ
...มนุษย์เอ๋ย  พระองค์ทรงสำแดงแก่เจ้าแล้วว่าอะไรดี    และพระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรจากเจ้า   นอกจากให้กระทำความยุติธรรมและรักสัจกรุณา    และดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจไปกับพระเจ้าของเจ้า   (Micah 6:8)
...อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้   แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ   แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่   เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า   จะได้รู้ว่าอะไรดี   อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม   (Romans 12:2)

2. ตัดสินใจให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
อาจารย์เปาโลให้หลักการทำงานร่วมกันว่า ...อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว   แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย (Philippians 2:4)  ...เราทุกคนจงกระทำให้เพื่อนบ้านพอใจ   เพื่อนำประโยชน์และการพัฒนามาให้เขา (Romans 15:2)
การตัดสินใจของผู้นำจะส่งผลกระทบต่อผู้คนที่กำลังติดตาม และอาจส่งผลไปวงกว้างมากกว่านั้นได้  ผู้นำมักมีโอกาสรู้ เห็น เข้าใจ สิ่งที่จะเกิดขึ้นมากกว่าผู้ตาม  จึงจำเป็นต้องมีคุณธรรม จริยธรรมในการตัดสินใจตระหนักเสมอว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อคนอื่น ๆ  ไม่ใช่ตัดสินใจในทางที่จะนำประโยชน์หรือผลดีต่อตัวเองเท่านั้น แต่ตรงกันข้ามหากต้องเลือก ผู้นำที่ดีควรเลือกให้การตัดสินใจนั้นเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด  ดังตัวอย่างของพระเยซูคริสต์ที่ตัดสินใจสละสภาพของพระเจ้าลงมาเกิดเป็นมนุษย์และรับสภาพทาส ยอมตายเพื่อเป็นค่าไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์(ฟป.2.5-13) การตัดสินพระทัยแบบนี้จึงทำให้พระนามของพระเยซูเป็นที่ยอมรับไปตลอดนิรันดร์ และนำคนบาปอย่างคุณและผมให้รับชีวิตใหม่ มีสิทธิ์ได้อยู่สวรรค์โดยพระคุณเพราะความเชื่อ
3. ตัดสินใจให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เป้าหมายของการตัดสินใจที่สำคัญ คือ ผลการตัดสินใจนั้นสามารถนำไปสู่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  การนำคริสตจักรของพระเจ้าไม่ใช่ทำตามใจของใครคนใดคนหนึ่ง หรือเพื่อเอาชนะกันและกัน แต่เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้เกิดขึ้น  ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและพากเพียรพยายาม เพราะเราต่างเป็นส่วนหนึ่งในพระกายของพระคริสต์ มีชีวิตในความเชื่อ ความหวัง และทุกสิ่งภายใต้พระนามพระองค์
...จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน   ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว   เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว   ความเชื่อเดียว   บัพติศมาเดียว พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง   ผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง   และทั่วคนทั้งปวง   และในคนทั้งปวง (Ephesians 4:3-6)
สุดท้ายสิ่งที่ผู้นำตัดสินใจนั้นต้องนำรายงานต่อพระเจ้าแน่นอน
ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังและยอมอยู่ในโอวาทของหัวหน้าของท่าน   จงให้เขาทำงานนี้ด้วยความชื่นใจ   ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ   ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์อะไรแก่ท่านทั้งหลายเลย   เพราะว่าท่านเหล่านั้นดูแลรักษาจิตวิญญาณของท่านอยู่   เสมือนหนึ่งผู้ที่จะต้องเสนอรายงาน   (Hebrews 13:17)
4. ตัดสินใจให้นำไปสู่ความยุติธรรม
ผู้นำ ต้องมีความยุติธรรมในการตัดสินใจ ไม่ใช่ลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้น ไม่ว่าคนนั้นจะยากดีมีจน เขาควรได้รับความยุติธรรมอย่างเสมอภาคกัน  ถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด จริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่  คือการยึดหลักแห่งความจริงที่จะนำความยุติธรรมเกิดขึ้นด้วยความยำเกรงพระเจ้า ผู้เป็นเจ้านายเหนือทุกอย่าง
ฝ่ายนายก็จงทำแก่เหล่าทาสของตนตามความยุติธรรมและสม่ำเสมอกัน   เพราะท่านรู้ว่าท่านก็มีนายองค์หนึ่งในสวรรค์ด้วย   (Colossians 4:1)
ผู้นำต้องมีความคิด ความตั้งใจที่จะทำทุกวิถีทางที่จะเกิดความเป็นธรรมและสันติภาพให้เกิดขึ้น
...ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย   ในที่สุดนี้ขอจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง   สิ่งที่น่านับถือ   สิ่งที่ยุติธรรม   สิ่งที่บริสุทธิ์   สิ่งที่น่ารัก   สิ่งที่ทรงคุณ   คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ   สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ   ก็ขอจงใคร่ครวญดู จงกระทำทุกสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้และได้รับไว้   ได้ยิน   และได้เห็นในข้าพเจ้าแล้ว   และพระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงสถิตกับท่าน (Philippians 4:8-9)
5. ตัดสินใจให้นำไปสู่การถวายเกียรติแด่พระเจ้า
ผู้นำที่ดีย่อมรู้ว่า เป้าหมายสูงสุดในการทำงานนั้น ไม่ใช่เพื่อเกียรติ ศักดิ์ศรีของตนเอง แต่เพื่อเกียรติและพระสิริจะเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้สูงสุด ที่ทรงเลือกและเรียกให้คุณเข้าสู่การเป็นผู้รับผิดชอบต่อพันธกิจของพระองค์ 
...ให้ทุกคนถือว่าเราเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์   และเป็นผู้อารักขาสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า ฝ่ายผู้อารักขาเหล่านั้นต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้ทุกคน (I Corinthians 4:1-2)
จึงไม่สมควรที่จะสร้างบารมี สร้างอิทธิพลของตนเอง เพื่อนำประโยชน์ เกียรติเป็นของตนเป็นสำคัญ แต่ให้ตระหนักอยู่เสมอว่า คุณกำลังรับผิดชอบงานของพระเจ้าในฐานะ “ผู้รับใช้” ที่ไม่สามารถอ้างบุญคุณใด ๆต่อพระเจ้าผู้เป็นนายใหญ่สูงสุด  พระเยซูสอนว่า...ฉันใดก็ดี   เมื่อท่านทั้งหลายได้กระทำสิ่งสารพัด   ซึ่งเราบัญชาไว้แก่ท่านนั้น   ก็จงพูดด้วยว่า   'ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นบ่าวที่ไม่มีบุญคุณต่อนาย   ข้าพเจ้าได้กระทำตามหน้าที่ซึ่งข้าพเจ้าควรกระทำเท่านั้น' (Luke 17:10)
หน้าที่สำคัญของผู้นำคือ ทำทุกอย่างด้วยการถวายชีวิตและถวายเกียรติแด่พระองค์ จงมั่นใจว่าโดยทางนี้ พระเจ้าจะไม่ลืม ไม่ทอดทิ้งผู้รับใช้ของพระองค์ จะทรงประทานเกียรติและศักดิ์ศรีที่สมควรให้คุณในฐานะทาสที่ดีและสัตย์ซื่ออย่างแน่นอน  คำอุปมาที่พระเยซูสอนไว้เกี่ยวกับนายที่กลับมาคิดบัญชีและกล่าวกับทาสที่ดีและสัตย์ซื่อว่า... 'ดีแล้ว   เจ้าเป็นทาสดีและสัตย์ซื่อ   เจ้าสัตย์ซื่อในของเล็กน้อย   เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของมาก   เจ้าจงปรีดีร่วมสุขกับนายของเจ้าเถิด'  (Matthew 25:21)  และทรงสัญญาว่าพระเจ้าจะประทานเกียรติแก่ผู้รับใช้ของพระองค์...ถ้าผู้ใดจะรับใช้เรา   ผู้นั้นก็ต้องตามเรามา   และเราอยู่ที่ไหนผู้รับใช้ของเราจะอยู่ที่นั่นด้วย   ถ้าผู้ใดรับใช้เรา   พระบิดาก็จะทรงประทานเกียรติแก่ผู้นั้น (John 12:26) และอาจารย์เปาโลหนุนใจผู้เชื่อว่า...  เหตุฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า   ท่านจงตั้งมั่นอยู่   อย่าหวั่นไหว   จงปฏิบัติงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา   ท่านทั้งหลายพึงรู้ว่า   โดยองค์พระผู้เป็นเจ้า   การของท่านจะไร้ประโยชน์ก็หามิได้  (I Corinthians 15:58)
ทั้งนี้ผู้นำต้องเริ่มด้วยการมีท่าทีที่ถูกต้อง  ตัดสินใจและเลือกลงมือทำสิ่งที่จะนำการถวายเกียรติมาสู่พระนามของพระเจ้าเท่านั้น
ขอให้การตัดสินของคุณในฐานะผู้นำเป็นไปตามที่ควรจะเป็น คือ เป็นตามพระประสงค์ของพระเจ้า เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  นำไปสู่ความยุติธรรม และนำไปสู่การถวายเกียรติแด่พระเจ้า
อาเมน !!

(ขอบคุณภาพจากอินเตอรืเน็ต)