11 มิถุนายน 2561

จงใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างฝันให้เป็นจริง โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต  โดย บัณฑิต  ดาแว่น (May 25, 2018 at  Orlando FL, USA)

“จงใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างฝันให้เป็นจริง”

ผมเดินทางมายังอเมริกาอีกครั้งโดยพระคุณและการจัดเตรียมของพระเจ้า  มุ่งหน้าไปยังรัฐฟลอริด้า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของอเมริกา เป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายในการทำพันธกิจ  เมื่อว่างเว้นจากงานก็ได้โอกาสไปเยี่ยมชมสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของดิสนีย์ อันเป็นความใฝ่ฝันของผู้คนที่อยากไปเยือน แม้จะต้องจ่ายค่าที่พัก อาหาร ค่าเข้าชม และกิจกรรมต่างๆ ด้วยเงินก้อนใหญ่ แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากต่อแถวรอกันยาวเหยียด... ส่วนผมคงไม่พร้อมจ่ายอย่างนั้น เพราะคิดดูแล้วค่าเข้าชมหนึ่งวันสามารถเป็นค่าอาหารไปทั้งอาทิตย์ได้เลย และหากต้องการชมให้ทั่วเห็นบอกว่าต้องใช้เวลาทั้งเดือนเลยทีเดียว เท่าที่มีเวลาประมาณครึ่งวันกับงบประมาณที่จำกัด ผมเลือกเข้าชมในส่วนของ Disney Spring. ที่ให้ชมฟรี ! ย้ำอีกครั้ง ฟรี !!  โดยเดินชมตามโซนต่างๆ ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ของวอลต์ดีสนีย์ เช่น มิกี้เมาส์ ทรอยสตอรี่ จิกซอร์ เทเรซ และอีกหลายเรื่อง เดินไปถ่ายรูปไป เหนื่อยก็พัก หิวก็ซื้อกิน ตกเย็นก็นั่งฟังเพลง ชมการแสดง ของเหล่าศิลปินที่มากความสามารถมาโชว์ผลงานอย่างน่าทึ่ง ช่างเป็นวันที่พิเศษจริงๆ

วอลต์ดิสนีย์เวิลด์ (Walt Disney World) เรียกอย่างเป็นทางการ ว่า วอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต (Walt Disney World Resort
) เป็นรีสอร์ตที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในโลกและมีจำนวนผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1971 ดำเนินการโดยวอลต์ดิสนีย์พาร์กแอนด์รีสอร์ต ส่วนหนึ่งของบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ มีขนาดพื้นที่ 30,080 เอเคอร์ หรือ 121.7 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วย สวนสนุก 4 แห่ง สวนน้ำ 2 แห่ง โรงแรมและสถานพักตากอากาศ 27 แห่ง รวมถึงอีก 9 แห่งที่ไม่ใช่ของดิสนีย์ และมีแหล่งช็อปปิ้ง สนามกอล์ฟ สปา ฟิตเนส สถานบันเทิง และร้านอาหารอีกจำนวนมาก  มักนิยมเรียกย่อว่า ดิสนีย์เวิลด์ หรือย่อว่า WDW เริ่มต้นมีเพียงสวนสนุกแห่งเดียวคือแมจิกคิงดอม แต่ต่อมาเปิดให้บริการ เอปคอต (ค.ศ. 1982) ฮอลลีวู้ดสตูดิโอส์ (ค.ศ. 1989) และ แอนิมอลคิงดอม (ค.ศ. 1998)  ปัจจุบันวอลต์ดิสนีย์เวิลด์เป็นสถานที่พักผ่อนวันหยุดที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก จำนวน 52 ล้านคนต่อปี[2] เป็นจุดหมายปลายทางแฟนคลับของดิสนีย์และเป็นวัฒนธรรมสมัยนิยมของชาวอเมริกัน  (https://th.wikipedia.org/wiki/วอลต์ดิสนีย์เวิลด์)

มีคนกล่าวว่า...ดีสนีย์สนุกกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในดินแดนสวนสนุกของเขาเสมอ เขาเรียกว่า...สวนสนุกดีสนีย์แลนด์ไม่มีวันเสร็จสิ้น…

As long as there is imagination left in the world, Disneyland will never be finished
ตราบใดที่โลกยังมีจิตนาการหลงเหลืออยู่ สวนสนุกดีสนีย์แลนด์ไม่มีวันเสร็จสิ้น…

เป็นถ้อยประโยคที่ดีสนีย์ได้กล่าวไว้และจนถึงปัจจุบัน สวนสนุกดีสนีย์ยังคงดำรงอยู่  จากที่แรก ณ เมือง อนาไฮม์ รัฐแคลิฟลอเนีย จนปัจจุบันได้ขยายสาขาไปยังที่ต่าง ๆ อีกหลายแห่งทั่วโลก

ทำไมผู้คนจำนวนมากถึงอยากไปดูสิ่งที่ปลูกสร้างอย่างรังสรรค์ของวอลต์ดีสนีย์อย่างนั้น ? แน่นอนเพราะเขาสามารถสร้างความฝันและจิตนาการให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องและมองเห็นได้ ประกอบกับเทคนิคการตลาด ระบบที่รองรับความต้องการของคนอย่างดี  จึงประสบความสำเร็จ

หากมองในด้านจิตวิญญาณและความจริงที่เป็นอยู่ ใครเป็นผู้สร้างและรังสรรค์สิ่งดี สิ่งสวยงามที่แท้จริง หรือ เป็นต้นตำหรับของการสร้างฝันให้เป็นจริง  คำตอบจากพระคัมภีร์พบว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้เนรมิตาสร้างฟ้าและแผ่นดิน สรรพสิ่ง สรรพสัตว์ ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น รวมทั้งชีวิตของมนุษย์อย่างคุณและผมขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ (ปฐก.1,ยน.1) หากมองดูมือข้างละห้านิ้วที่ทำงานอย่างน่าทึ่ง อวัยวะต่างๆ มีระบบระเบียบของมันอย่างอัศจรรย์ จะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดแม้เล็กน้อยเพียงใดก็ไม่ได้ แม้เส้นขนเพียงน้อยนิดหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งกายไปด้วย

สิ่งที่ดีสนีย์คิดและรังสรรค์สร้างขึ้นมานั้น เป็นสิ่งที่จำลองของจริงและเกิดจากจินตนาการเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายก็ต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่พระเจ้าได้สร้างไว้ในงานของเขาทุกอย่าง  แต่สิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นเกิดขึ้นด้วยฤทธ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นของจริงที่มีชีวิต และไม่เคยมีมาก่อน ไม่ต้องใช้วัสดุแต่เกิดจากการ “เนรมิต” ด้วยพระดำรัส เมื่อตรัส(พูด) ก็ทำให้เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์  ดังนั้น พระเจ้าสมควรที่จะเป็นผู้ได้รับความสนใจและคำยกย่องสรรเสริญมากสักเท่าใด

ปัญหาคือมนุษย์กลับลืม ละเลย และมองข้ามความจริงนี้ไป แถมหลายคนยังต่อต้าน เหยียดหยามพระผู้สร้างอย่างมีอคติ  หลงคิดว่าสามารถทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ด้วยตนเองได้ จนลืมที่มาที่ไป ลืมแหล่งกำเนิดของชีวิต จึงใช้ชีวิตตามใจตนเอง ไม่สนใจการถวายเกียรติแด่พระเจ้า ไม่สนใจแก่นแท้ของชีวิต หลงอยู่แค่ภาพลักษณ์ภายนอก พยายามทำตัวให้เป็นที่ยอมรับด้วยวัตถุสิ่งของเท่านั้น ซึ่งนำไปสู่การลดคุณค่าของคน แต่กลับให้คุณค่าวัตถุเกินความเป็นจริง ส่งผลกระทบต่อชีวิตตนเองและสังคมอย่างน่าใจหายดังที่เห็นทุกวัน

หากคุณรู้และยอมรับความจริงแล้วว่าผู้ที่สรรค์สร้างและให้ชีวิตที่แท้จริงเป็นใคร ใครควรค่าแก่การยกย่องสรรเสริญ ก็ขอให้ใช้ชีวิตและเวลาที่มีอยู่นั้นทำสิ่งที่ควรค่า และถวายเกียรติแด่พระองค์ดีกว่าหรือไม่? เพื่อให้ผลดีนั้นเกิดขึ้นแก่ชีวิตและคนรอบข้างอย่างน่าชื่นชมต่อไป 

“จงใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างฝันให้เป็นจริง” ดังตัวอย่างชายที่ชื่อ วอลต์ดีสนีย์ได้ทำมาแล้ว แม้เราไม่สามารถสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ แต่เพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์และมีคุณค่า เท่านี้ก็มากพอที่จะก่อเกิดประโยชน์มากมายแล้ว และสุดท้ายสำคัญยิ่ง คือ อย่าลืม อย่าละเลยที่จะยกย่องถวายเกียรติแด่พระเจ้าพระผู้สร้างที่แท้จริงด้วย แล้วคุณจะพบว่าแท้จริงชีวิตมีสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากกว่าที่คุณเคยคิด

มาลองดูสิครับ ?