11 มิถุนายน 2561

ความจำของผมสั้น แต่ความรักของพระเจ้ายาว โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต โดย ศจ.บัณฑิต ดาแว่น

ความจำของผมสั้น แต่ความรักของพระเจ้ายาว

what is man that you are mindful of him,
and the son of man that you care for him?
มนุษย์เป็นผู้ใดเล่า ที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา?
และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่า ที่พระองค์ทรงห่วงใยเขา? (สดุดี 8:4)
เช้าวันที่ 25 มิถุนายน 2017 ผมอ่านพระคัมภีร์ต่อเนื่องและกำลังอ่านถึงสดุดีบทที่ 8 ขณะที่อยู่ในเมือง Saint Paul, Minnesota USA. โอกาสได้รับเชิญเข้าร่วมและเทศนาในการประชุมใหญ่ประจำปีของสหคริสตจักรม้งแบ๊บติสต์อเมริกา (Hmong Baptist National Association) นับเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่หาที่สุดไม่ได้ที่มีต่อชีวิต การมาครั้งนี้มีสัญญาณการรับรองที่มาจากพระเจ้าหลายอย่างนับตั้งแต่การได้รับเชิญ การขอวีซ่า การซื้อตั๋วเครื่องบิน การเดินทางที่ยาวไกล การใช้ภาษาที่เราไม่คุ้นเคย ยังไม่นับรวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดไม่ถึงว่าจะเจอแต่ก็สามารถผ่านมาได้อย่างอัศจรรย์ เมื่อได้อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ทำให้ได้คำตอบในใจว่า เพราะพระเจ้าทรงรัก ห่วงใย และทรงคิดถึงชีวิตของผมนั่นเอง !
ทำไมต้องเป็นการมาร่วมกับพี่น้องม้งในอเมริกา ? ทั้งที่ผมไม่ใช่คนม้ง พูดภาษาม้งไม่ได้ (กินอาหารม้งได้แบบอร่อย) แต่พระเจ้ายังทรงคิดถึงและให้โอกาสในการรับใช้ ทำให้ย้อนคิดกลับไปเมื่อครั้งยังเด็กอายุไม่กี่ขวบ ผมต้องซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ของคุณพ่อ ที่ท่านเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา แต่มีหัวใจในการประกาศข่าวประเสริฐ เพราะชีวิตของท่านได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้าให้หลุดพ้นจากการเป็นทาสของสุราและชีวิตที่เลวร้าย ท่านไม่รู้วิธีการประกาศอะไรมากนัก แต่อยากให้คนอื่นรู้ถึงอำนาจของพระเจ้าองค์เที่ยงแท้นี้ด้วย ท่านพูดกับผู้คนที่พบปะถึงข่าวประเสริฐของพระเจ้า พ่อพาผมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปที่ศูนย์อพยพชาวม้งที่อำเภอบ้านโคกจังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากบ้านประมาณ 70 กิโลเมตร ทางลูกรังเต็มไปด้วยฝุ่น แดดร้อนแผดเผา ผมนั่งหัวผะงกไปมาเพราะง่วงนอน แต่รถฮอนด้าคันเก่าก็ค่อยคืบคลานไปจนถึง ผมลงจากรถและเริ่มร้องเพลงพร้อมกับทำท่าทางยกไม้ยกมือ “ยกพระเยซู ๆ ยกพระองค์ให้ชาวโลกได้เห็น พระองค์ตรัสว่า เมื่อเราถูกยกจากโลกแล้ว เราจะนำคนทั้งหลายมาหาท่าน” อะไรประมาณนี้ ไม่มีเครื่องขยายเสียง ไม่มีอุปกรณ์แสงสีเสียง แต่ทว่า ชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างมามุงดูว่าเด็กคนนี้กำลังทำอะไร พ่อเล่าเรื่องพระเยซูให้พวกเขาฟัง บางคนสนใจ บางคนหัวเราะ บางคนโต้ตอบ จากนั้นพาผมเข้าไปภายในศูนย์อพยพ จำได้ว่าบริเวณที่ผมยืนอยู่นั้นหมอผีกำลังประกอบพิธีของเขาอยู่ ผมไม่รู้เรื่องก็แค่ยืนดูตามประสาเด็ก แต่ปรากฏว่าหมอผีโกรธ ตะโกนเสียงดัง คว้าดุ้นฟืนมากัดกิน จนถ่านไฟแดงๆแตกกระจายไปทั่ว บางส่วนกระเด็นมาเกือบถึงหน้าของผม ผู้คนเริ่มวุ่นวายต่างเดินหนีออกไป ส่วนผมยังยืนอยู่อย่างไร้เดียงสา จนมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อพี่ทหารมาคว้าตัวออกไป พ่อก็รีบกลับมาหาผมเช่นกัน มารู้ที่หลังว่า หมอผีไม่สามารถประกอบพิธีได้เพราะมีผู้เชื่อพระเยซูอยู่ตรงนั้น... วันนี้ผมย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นนับเป็นเวลา 30 กว่าปีมาแล้ว ฤทธิ์อำนาจของพระเยซูมีพลังอำนาจเหนือผีมารเสมอ แม้เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจหลายเรื่อง แต่ยังคงสำแดงอย่างชัดเจนว่า ผีมารไม่อาจทำการของมันได้เมื่อมีใครที่เชื่อพระเยซูอยู่ตรงนั้น...ชาวม้งในศูนย์อพยพส่วนใหญ่ได้ย้ายไปอยู่ประเทศที่สามตามนโยบายรัฐบาลและสหประชาชาติ บางส่วนไปอยู่ที่อเมริกาและประเทศอื่นๆส่วนหนึ่งเข้าสู่ชุมชนพัฒนาชาติไทย...ปัจจุบันผมยังมีโอกาสรับใช้พระเจ้าท่ามกลางพี่น้องหลากหลายกลุ่มในภาคเหนือของไทยซึ่งรวมถึงพี่น้องม้งด้วย
ความทรงจำของผมในเรื่องราวสมัยเด็กมีไม่มากนัก หลายเรื่องผมลืมไปแล้ว แต่พระเจ้าไม่เคยลืม พระองค์ทรงคิดถึงคนของพระองค์อยู่เสมอ ความสัตย์ซื่อ ความเที่ยงธรรม ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เสมอ สิ่งที่เราเคยทำแม้เป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่หากทำต่อผู้หนึ่งผู้ใดในนามพระเยซู พระองค์ไม่เคยลืมเลย (มธ.25:40) ไม่มีอะไรที่จะไร้ประโยนชน์สำหรับคนที่รับใช้พระเจ้าจริงๆ (1คร.15:58)
พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง ทรงอยู่ก่อนทุกสิ่งจะมีขึ้นมา ทรงเป็นอัลฟ่าและโอเมกา ทรงเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย ทรงเป็นนิรันดรกาล ทรงรู้ทรงเห็น ทรงเข้าใจ ทรงจำได้ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตนิรันดร์ แม้ความทรงจำของมนุษย์นั้นแสนสั้น แต่ความรักความทรงจำของพระเจ้าเป็นนิรันดร์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงคิดถึงชีวิตของเราเสมอ เพียงแต่ว่าเราจะเข้าใจพระทัยของพระองค์มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงคิดถึงข้าพระองค์... ขอพระเกียรติและพระสิริเป็นขององค์พระยาห์เวห์สืบไปเป็นนิตย์ เพราะพระนามของพระองค์นั้นสูงส่งยิ่งนักทั่วทั้งแผ่นดินโลก