25 มีนาคม 2556

ติดตามพระเจ้าแบบไร้รอยต่อ โดย ศจ.บัณฑิต ดาแว่น


                                                                        คิดอย่างบัณฑิต โดย บัณฑิต ดาแว่น

ติดตามพระเจ้าแบบไร้รอยต่อ

            ความบาป  ทำให้มนุษย์ถูกแยกออกจากพระเจ้า  แต่  พระเยซูคริสต์ เป็นผู้เชื่อมต่อให้กลับคืนดี มีสัมพันธภาพที่แนบแน่นอีกครั้ง  นับตั้งแต่มนุษย์ตกหลุมพรางของซาตาน  ฝ่าฝืนพระบัญชาของพระเจ้า  ทำให้ต้องถูกขับไล่ออกจากดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ ไปเผชิญกับชะตาชีวิตอย่างทุกข์ลำบาก ทั้งด้านชีวิต สุขภาพ ความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์ต่อกันในครอบครัว ญาติพี่น้อง สังคม และสภาพแวดล้อมของโลกที่เกิดการแตกร้าว ขัดแย้ง ยุ่งเหยิงปั่นป่วนไปทั่วทุกมิติ
            แม้วันเวลา สถานการณ์ การพัฒนาการของมนุษย์นั้นจะมาไกลและยาวนานเท่าใด แต่ยังไม่อาจเชื่อมรอยร้าว ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ได้ ดูเหมือนยิ่งนับวันแยกห่างออกไปเรื่อยๆ  แม้จะมีช่องทางทางพระบัญญัติ ที่เปิดโอกาสให้ปฏิบัติตาม เครื่องเซ่นไหว้บูชาที่ทำให้เกิดการพอพระทัยพระเจ้าในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ยิ่งนับวันธรรมบัญญัติเหล่านั้นที่ถึงแม้เป็นสิ่งดีที่ประทานมาจากพระเจ้า ยิ่งเป็นเครื่องชี้วัดว่ามนุษย์ยังไม่สามารถได้มาตรฐานที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่เริ่มต้น (รม.3.20-23 ,ยก.2.10) เพราะหากแม้ใครจะทำตามบัญญัติได้หลายข้อแต่ผิดอยู่ข้อเดียว ทั้งชีวิตยังต้องตกอยู่ภายใต้หายนะอยู่ดี  ยิ่งการหาทางออกที่ผิดๆ หลายประการของมนุษย์นั้นก็ยิ่งทำให้ชีวิตห่างไกลจากความจริงมากขึ้น...  ดูเหมือนสิ้นหวัง แต่ยังมีทางรอด !
            โดยทางพระเยซูคริสต์ ผ่านทางไม้กางเขน เลือดเนื้อ ชีวิตของพระองค์นั้น เป็นเครื่องบูชาประเสริฐ บริสุทธิ์ ที่พอพระทัยพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์ยุติธรรม  จากที่เมื่อก่อนมนุษย์ผู้มีมลทินต้องห่างไกลจากพระพร และสมควรรับพระอาชญาอย่างสาสม (อฟ.2,3,4) กลับได้เข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมในฐานะพลเมือง ฐานะบุตรที่รัก ถึงขั้นสามารถเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดสนิทจนรู้ถึงพระประสงค์อันลึกล้ำได้ (รม.8.15-17)  กำแพงที่เคยขวางกั้น หุบเหวที่เคยแยกห่าง ม่านที่เคยปิดบังถูกเปิดออกจากเบื้องบนสู่ล่างอย่างอัศจรรย์ โดยที่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ หรือโดยน้ำมือของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเมตตาคุณอันอุดม ที่เราทั้งหลายไม่สมควรจะได้แม้แต่นิด  แต่โดยพระเยซูคริสต์ที่ทรงสละพระองค์เองเพื่อเป็นสะพานเชื่อมช่องว่าง รับโทษความผิดบาปที่ทำให้พระพิโรธรุนแรงควรตกแก่เรานั้นไปอยู่ที่พระองค์ทั้งหมด ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและสืบไป
            รอยต่อทั้งหลายสลายไปหมดสิ้นแล้ว  เพียงแต่เราจะเข้ามาใกล้ชิดสนิมสนมกับพระเจ้า พระบิดาผู้เปี่ยมด้วยเมตตามากน้อยเท่าใด  ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อพระคุณอันประเสริฐนี้ด้วยตัวคุณและผมแล้ว !
            พระเยซูสอนให้เข้าใกล้ชิดสนิทสนม ดังแขนงที่ติดกับเถา  กิ่งที่ติดกับต้น เพื่อผลอันดีจะเกิดขึ้นอย่างมากมายอันเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้าผู้เป็นต้นและเถา
            วันนี้ การเชื่อมต่อกับพระเจ้านั้นไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องเซ่นบูชาด้วยเลือดและเนื้อของเราอีกต่อไป  หากแต่ต้องเป็นด้วยชีวิตและหัวใจที่ผูกพัน(รม.12.1-2) เพียงเท่านั้นก็สามารถสัมผัสถึงความรัก ความอบอุ่น และสิ่งมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ทั้งหลายได้แล้ว เพราะพระเยซูยืนยันว่า สาวกและผู้เชื่อจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าพระองค์(ยน.14.12) เพียงแต่ต้องเชื่อมให้ตรงกับพระประสงค์พระเจ้า (ยน.15.7) และเข้าเฝ้าพระองค์อย่างสม่ำเสมอ
            ขอให้ชีวิตและลมหายใจของเราเชื่อมต่อกับพระเจ้าอย่างใกล้ชิด อย่าให้ชีวิตต้องมีรอยร้าวระหว่างเรากับพระองค์อีกเลย เพราะทรงลงทุน ลงแรง ลงชีวิตเพื่อเราจะมีโอกาสในวันนี้อย่างเหลือที่จะประเมินได้  
ขอให้ชีวิตและการติดตามพระเจ้าเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ อย่าให้ห่างเหินจนไร้ร่องรอย ไร้วี่แววเลยนะครับ !