10 กรกฎาคม 2558

กินข้าวกับพระเยซู โดย ศจ.บัณฑิต ดาแว่น

คิดอย่างบัณฑิต  โดย ศจ.บัณฑิต  ดาแว่น 

กินข้าวกับพระเยซู

นี่แน่ะ   เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู   ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู   เราจะเข้าไปหาผู้นั้นและจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา   และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา (วิวรณ์ 3:20)
คงเคยได้ยินสำนวนที่คุยกันสนุกๆ ว่า “เรื่องกินเรื่องใหญ่”  ผมกลับคิดว่า “เรื่องกินไม่ใช่เรื่องใหญ่  แต่เรื่องไม่ได้กินต่างหากใหญ่กว่า”  ลองสังเกตดูสิว่าจริงหรือไม่ ?  หากคนเราได้กินอิ่มแล้ว มักจะรู้สึกดี สบายใจ ไม่อยากก่อเรื่องอะไรให้วุ่นวาย  ตรงกันข้ามลองไม่ได้กินให้สมกับความหิวดูสิจะเกิดอะไรขึ้น ! ผมว่า “เกิดเรื่องใหญ่” แน่ๆ  คุณเคยได้ยิน หรือเคยมีอาการโมโหหิวไหม ?  นั่นแหละสาเหตุจากการไม่ได้กินมันส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และปฏิกิริยาทุกส่วนในร่างกาย รวมทั้งความคิด จิตใจ ของคุณเข้าแล้ว !
ผมคิดเล่นๆ ต่อไปว่า เรื่องไม่ได้กินนับว่าใหญ่แล้ว ยังมีเรื่องที่ใหญ่มากกว่าอีกนะ นั่นคือ เรื่องที่กินแล้วไม่อิ่ม อันเนื่องมาจากอาหารไม่พอกินนั่นเอง  ลองคิดดู คุณหิวจัด กินไปได้ครึ่งท้อง แต่ทุกอย่างหมดแล้ว แหม ! ความรู้สึกมันโหดร้ายยิ่งกว่าการไม่ได้กินเสียอีกนะจะบอกให้  ตัวอย่างจากตำนานพื้นบ้านของชาวอิสานเรื่อง “กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่” คงยืนยันได้อย่างดี เรื่องมีอยู่ว่า ชายหนุ่มออกไปไถนาแต่เช้ามืด ผู้เป็นแม่ทำกับข้าวไปส่งตอนสายๆ  แต่ด้วยความหิวแบบสุดๆ เขารู้สึกว่านอกจากแม่จะมาสายแล้ว กล่องข้าวเหนียว และกับข้าวที่ห่อมานั้นยังน้อยนิดอีกด้วย  บันดาลโทสะทำให้เขาทำร้ายแม่จนนอนแน่นิ่งไป..  ด้วยความหน้ามืด ตาลาย เขาไม่สนใจสิ่งใด  นอกจากคดข้าวเหนียวจากกล่องเล็กๆนั้นมากินๆๆ จนรู้สึกอิ่มแต่ข้าวยังไม่หมด เพราะแม่ยัดใส่จนแน่นนั่นเอง เมื่ออิ่มท้องดี สติสัมปชัญญะก็กลับคืนมา แต่อนิจจาแม่นอนสิ้นใจตายเสียแล้ว... เรื่องนี้สะท้อนได้ทั้งการไม่ได้กิน และกลัวว่ากินแล้วจะไม่อิ่มได้เป็นอย่างดีว่าเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ   นี่ขนาดแค่คิดว่ากลัวตนเองกินไม่อิ่มจากอาหารที่น้อยนิด  ยังกลายเป็นฆาตกรไปในชั่วพริบตา
เรื่องไม่ได้กิน เรื่องที่กินแล้วไม่อิ่ม หรือเรื่องกลัวตนเองกินไม่อิ่มนั้น มักจะนำไปสู่การเกิดเรื่องใหญ่หลายด้าน  ตัวอย่างเช่น  บางครอบครัวหากมื้อไหนไม่ได้กิน หรือกินไม่อิ่ม มักจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัว บางครั้งกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นทันที   เด็กที่กินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ จะส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ต่อสุขภาพ  นอกจากเรื่องไม่ได้กินจะเกิดเรื่องใหญ่ในครอบครัวแล้ว ยังเกิดเรื่องใหญ่ในสังคมด้วย เช่น บางคนไม่ได้กิน(สินบน)  บางคนไม่ได้กิน (ผลประโยชน์)  บางคนไม่ได้กิน (ส่วนแบ่ง) บางคนไม่ได้กิน (อำนาจ) ยังส่งผลให้เกิดเรื่องบานปลายใหญ่โตอีกมากมาย
นอกจากด้านครอบครัว และสังคมแล้ว ยังส่งผลต่อด้าน จิตใจ และจิตวิญญาณ เช่น  ผู้เชื่อพระเยซูไม่ยอมกินอาหารฝ่ายวิญญาณ ไม่ยอมกินพระวจนะของพระเจ้า  หรือ กินอย่างไม่เพียงพอ หรือ ไม่มีพอที่จะกินให้อิ่มได้  มักส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงต่อชีวิต จิตใจ และจิตวิญญาณ  คนเหล่านี้กลายเป็นปัญหาของครอบครัว คริสตจักร และสังคมตามมาด้วย  ดังคำสอนที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...
ชีวิตจะสมบรูณ์ไม่ได้ หากกินอาหารฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณไม่สมดุลเพียงพอ
'มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียว หามิได้   แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ   ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า' (มัทธิว 4.4)
ชีวิตทั้งฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณจะไม่เติบโตแข็งแรง หากกินอาหารไม่เหมาะกับวัย
พี่น้องทั้งหลาย   ข้าพเจ้าไม่อาจจะพูดกับท่าน   เหมือนพูดกับผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณแล้วได้   แต่ต้องพูดกับท่านเหมือนคนที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง   เหมือนกับท่านเป็นทารกในพระคริสต์ 2ข้าพเจ้าเลี้ยงท่านด้วยน้ำนม   มิใช่ด้วยอาหารแข็ง   เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านยังไม่สามารถรับ   และถึงแม้เดี๋ยวนี้ท่านก็ยังไม่สามารถ (1โครินธิ์ 3.2)
ถึงแม้ว่าขณะนี้ท่านทั้งหลายควรจะเป็นครูได้แล้ว   แต่ท่านก็ต้องให้คนอื่นสอนท่านอีก   ในเรื่องหลักธรรมเบื้องต้นแห่งพระวจนะของพระเจ้า   ท่านทั้งหลายต้องกินน้ำนมไม่ใช่อาหารแข็ง 13เพราะว่าทุกคนที่ยังกินน้ำนมนั้น   ยังไม่เข้าใจในเรื่องความชอบธรรม   เพราะเขายังเป็นผู้เยาว์ 14อาหารแข็งเป็นอาหารสำหรับผู้ใหญ่   สำหรับผู้ที่ได้รับการฝึกหัดอบรมให้สามารถรู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว (ฮีบรู 5.12-14)
ชีวิตทั้งฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณจะเกิดปัญหาความขัดแย้งกัน หากกินอาหารผิดประเภท
ส่วนคนที่ยังมีความเชื่อน้อยอยู่นั้น   จงรับเขาไว้   แต่มิใช่เพื่อให้โต้เถียงกันในเรื่องความเชื่อที่แตกต่างกันนั้น 2คนหนึ่งถือว่าจะกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น   แต่คนที่มีความเชื่อน้อยก็กินแต่ผักเท่านั้น 3อย่าให้คนที่กินนั้นดูหมิ่นคนที่ไม่ได้กิน   และอย่าให้คนที่มิได้กินกล่าวโทษคนที่ได้กิน   เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงโปรดรับเขาไว้แล้ว (โรม 14.1-3)
ชีวิตทั้งฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณจะขาดความสุข ขาดความพึงพอใจ หากกินอาหารผิดสถานที่
กินผักเป็นอาหารในที่ที่มีความรัก  
  ก็ดีกว่ากินเนื้อวัวอ้วนพร้อมกับความเกลียดชังอยู่ด้วย  
(สุภาษิต 15.17)
ยังมีอีกหลายประการที่ยืนยันว่า เรื่องกิน และเรื่องไม่ได้กิน รวมทั้งเรื่องที่กินไม่อิ่ม ล้วนแต่ส่งผลให้เกิดเรื่องใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น ลองคิดดูหากมีการกินให้เพียงพอ กินให้ถูกที่ ถูกเวลา กินให้ถูกประเภท กินให้เหมาะสม เรื่องร้ายใหญ่โตหลายอย่างคงไม่เกิดขึ้นในชีวิต ครอบครัว และสังคม รวมทั้งปัญหาที่ไม่จำเป็นคงไม่เกิดขึ้น !
เหตุฉะนั้น ทางที่ดี มากินข้าวกับพระเยซูดีกว่า  พระองค์ทรงยืนเคาะอยู่ที่ประตูใจของคุณและผมแล้ว  หากใครได้ยินเสียง และเปิดประตูต้อนรับ  พระองค์สัญญาว่าจะรับประทานอาหารร่วมกับผู้นั้น และผู้นั้นก็จะร่วมรับประทานอาหารกับพระองค์ด้วย  เรื่องนี้มีนัยว่า ไม่เพียงที่พระเยซูจะเข้ามาในชีวิตของเราแล้วมากินอาหารจากเราเท่านั้น แต่พระองค์มีอาหารที่พิเศษที่ทรงเตรียมมาให้เราได้รับประทานกับพระองค์ด้วย หมายความว่า ทั้งอาหารฝ่ายร่างกาย และฝ่ายวิญญาณ จะมีอย่างบริบูรณ์ เพียงพอ สมดุล เหมาะสม ตามควรแก่กาลเทศะ ซึ่งจะส่งผลดีต่อชีวิตของเราอย่างอัศจรรย์ เมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเยซู
พระเยซูตรัสกับเขาว่า   “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต   ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว   และผู้ที่วางใจในเรา   จะไม่กระหายอีกเลย (John 6:35)

คุณได้ยินเสียงเคาะประตูไหม ?  อย่ามัวรีรอ  เปิดประตูต้อนรับพระองค์ และมากินข้าวกับพระเยซูด้วยกันเถิดครับ !