18 พฤศจิกายน 2562

ปลายทางของชีวิต-The end of life โดย บัณฑิต ดาแว่น


คิดอย่างบัณฑิต 

ปลายทางของชีวิต  โดย บัณฑิต ดาแว่น  

เราต่างยอมรับว่ามี “ปลายทางของชีวิต”
แล้วปลายทางชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร ?
พระคัมภีร์สอนว่า  พระเจ้าเป็นผู้กำหนดปลายทางของชีวิต
มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษาฉันใด (Heb 9:27) 
พระเจ้าทรงรู้ปลายทางชีวิตของแต่ละคนเป็นอย่างดี  แต่ในขณะเดียวกันทรงให้โอกาสแต่ละคนที่จะเลือกปลายทางของชีวิตได้ 
พระธรรมสดุดีบทที่ 1 ข้อ 1-6  ช่วยให้แนวคิด
1ความสุขเป็นของบุคคล  
 ผู้ไม่ดำเนินตามคำแนะนำ
ของคนอธรรม  
 หรือยืนอยู่ในทางของคนบาป  
 หรือนั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย  
 
2แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า  
 เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน  
 
3เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ  
 ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล  และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง  
 การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น  
 
4คนอธรรมไม่เป็นเช่นนั้น  
 แต่เป็นเหมือนแกลบซึ่งลมพัด
กระจายไป  
 
5
เหตุฉะนั้นคนอธรรมจะไม่ยั่งยืนอยู่ได้   เมื่อถึงคราวพระเจ้าทรงพิพากษา  
 หรือคนบาปไม่ยืนยงในที่ชุมนุมของคนชอบธรรม  
6เพราะพระเจ้าทรงทราบทางของคนชอบธรรม  
 แต่ทางของคนอธรรมจะพินาศไป

มีปลายทางของชีวิตอยู่ 2 ประเภท  คือ ปลายทางของ “คนชอบธรรม”
                                                                                                                                และปลายทางของ “คนอธรรม”

คุณต้องการปลายทางของชีวิตแบบไหนละ ?  เชื่อว่า ทุกคนต่างต้องการปลายทางแบบคนชอบธรรม
มีคนกลาวว่า  “แม้ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตได้” และผลของการเลือกใช้ชีวิตนั้น จะกลายเป็นบั้นปลายของชีวิตตามาเช่นกัน
ทางการแพทย์ ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพไว้ว่า  You are… what your eat  กินอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น  คุณเป็นอย่างนี้ ก็เพราะสิ่งที่คุณกินเข้าไปนั่นแหละ  ซึ่งหมายรวมถึง  ผลกรรม ย่อมเกิดจากการกระทำของคุณนั่นเอง คือ หว่านสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น หว่านเนื้อหนังย่อมเก็บเกี่ยวผลแห่งเนื้อหนัง หว่านฝ่ายวิญญาณย่อมเก็บเกี่ยวฝ่ายวิญญาณ
อย่าหลงเลย ท่านจะหลอกลวงพระเจ้าไม่ได้ เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ​ก็จะเกี่ยวก็สิ่งนั้น
ผู้ที่หว่านในย่านเนื้อหนังของตน ​ก็จะเกี่ยวก็ความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น แต่ผู้ที่หว่านในย่านพระวิญญาณ ​ก็จะเกี่ยวก็ชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น (Gal 6:7-8)
พระคัมภีร์สอนว่า  พระเจ้าทราบทางของคนชอบธรรม  ส่วน ทางของคนอธรรมจะพินาศไป
สดุดีบทที่ 1 ข้อ 3-6  สอนต่อไปว่า... เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ    ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล  และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง    การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น...  
คนชอบธรรมจะมีชีวิตและปลายทางอย่างไรบ้าง
1. เป็นเหมือนต้นไม้ที่อยู่ถูกที่ถูกทาง (อยู่ในที่ที่ควรจะอยู่)
2. เป็นเหมือนต้นไม้ที่เกิดผลตามฤดูกาล (เป็นไปตามคาดหวังได้)
3. เป็นเหมือนต้นไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ (ใบไม่เหี่ยวแห้ง)
4. เป็นเหมือนต้นไม้ที่เจริญเกิดผลดีทุกอย่าง
5. มีชีวิตที่มั่นคง ไม่ถูกกำจัดทิ้งเหมือนแกลบ (เมล็ดที่ลีบ)                
6. คนชอบธรรมจะสามารถยืนอยู่ได้ในวันพิพากษา                         
7. คนชอบธรรมได้รับการรับรองจากพระเจ้า
                 
เพราะพระเจ้าทรงทราบทางของคนชอบธรรม  
            

ส่วนคนอธรรมนั้น มีสิ่งตรงข้ามทุกอย่าง  คือ อยู่ในที่ไม่ควรจะอยู่  ไม่สามารถเป็นไปตามคาดหวังได้  ไม่มีความสมบูรณ์พูนสุข  ไม่เจริญก้าวหน้า ไม่มั่นคงในชีวิต  ไม่อาจทนต่อการพิสูจน์หรือการพิพาษาได้ และสุดท้ายจะพินาศไป
ผลการกระทำของคนอธรรมนั้น ไม่จำเป็นต้องรอถึงปลายทางของชีวิต เพราะในปัจจุบันเขาก็ไม่มีความสุขที่แท้จริง  แม้ดูภายนอกจะมีหลายสิ่งหลายอย่างแต่ภายในนั้นว่างเปล่า

คนชอบธรรม เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างไร ถึงมีชีวิตในปัจจุบันและปลายทางชีวิตที่ดีได้

1.  เลือกคบคน
1ความสุขเป็นของบุคคล  
 ผู้ไม่ดำเนินตามคำแนะนำ ของคนอธรรม  
 หรือยืนอยู่ในทางของคนบาป  
 หรือนั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย  
หากอยากมีชีวิตที่ดีต้องเลือกคบคนที่ดี  ไม่คบคนที่แนะนำแต่สิ่งชั่วร้าย  ไม่คบคนที่พาไปเดินในทางมืดมิด  ไม่คบคนที่พาไปนั่งในที่ไม่ดี ไม่คบคนที่พูดแต่สิ่งไม่ดี คำพูดไม่สร้างสรรค์ ปากพาจน ปากพาเจ็บ
พระคัมภัรรีสอน...ไม่ให้ฟังเสียงที่(คำแนะนำ)ชั่วร้าย แต่สนใจเสียงที่ดี 
ไม่ร่วมมือกับความชั่ว แต่นำตัวเองอยู่ในสิ่งที่ดี  ทั้งไม่เดินตามคำแนะนำของคนอธรรม ไม่ยืนในทางคนทำบาป ไม่นั่งในที่คนพูดไม่ดี

2. เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่จะนำชีวิตไปสู่ปลายทางที่ดี
โลกทุกวันนี้มีข้อมูลจำนวนมากนับไม่ถ้วน (Big DATA) จึงต้องเลือกข้อมูลที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขและนำปลายทางที่ดีมาสู่ชีวิต 
จะรู้ได้อย่างไรว่าข้อมูลไหน จริง หรือ เท็จ ชัวร์ หรือ มั่วนิ่ม  ต้องเข้ามา พึ่งในพระเจ้าและทำตามพระคำ
พระคำของพระเจ้านั้นเป็นแหล่งสติปัญญา และนำไปสู่ความสุขที่ยั่งยืนได้  ตามที่สอนว่า
                                 2แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า  
                                                                 เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน
  
การรู้จักและคิดคำนึงถึงพระคำของพระเจ้ามีผลดีต่อชีวิต
จะทำให้ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดและมีความสุข
 กฎหมายของพระเจ้ารอบคอบ    และฟื้นฟูจิตวิญญาณ  
 กฎเกณฑ์ของพระเจ้านั้นแน่นอน    กระทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา  
 ข้อบังคับของพระเจ้านั้นถูกต้อง    กระทำให้จิตใจเปรมปรีดิ์  
 พระบัญญัติของพระเจ้านั้นบริสุทธิ์    กระทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง
   (Psalms 19:7-8)
จะไม่ได้รับความอับอาย
 แล้วข้าพระองค์จะไม่ได้รับความอาย   โดยจดจ่ออยู่ที่พระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์  
(Psalms 119:6)
จะรักษาชีวิตที่ดีและบริสุทธิ์ไว้ได้
                 หนุ่มๆจะรักษาทางของตนให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร    โดยระแวดระวังตามพระวจนะของพระองค์  
                (Psalms 119:9-10)
จะปกป้องไม่ให้ทำในสิ่งที่ผิดพลาด
                 ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของ พระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์    เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาป
ต่อพระองค์   (Psalms 119:11)

คุณพอจะทราบปลายทางชีวิตของตนเองหรือยังว่าจะเป็นอย่างไร 
หากอยากเป็นดังคนชอบธรรม วันนี้เป็นโอกาสที่คุณจะเริ่มและเลือกทางที่ถูกต้อง
...ดูคนที่คุณคบสักนิดว่าจะพาไปทางดีหรือทางร้าย...คุณได้เดินในทางของคนชอบธรรมหรือไม่
...ดูสิ่งที่คุณทำหน่อยว่าจะช่วยให้คุณเจริญขึ้นหรือล่มจม...คุณได้แสวงหาพระเจ้าและพระคำของพระองค์หรือไม่

เชิญเข้ามาแสวงหาทางของพระเจ้าและทำตามพระคำของพระองค์ เพื่อจะมั่นใจได้ว่า ปลายทางของชีวิต จะเป็นปลายทางที่มั่นคงนิรันดร์

(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)