คิดอย่างบัณฑิต
ชีวิตที่ก้าวหน้า
Progression of life.
โดย บัณฑิต ดาแว่น
Progression of life.
โดย บัณฑิต ดาแว่น
“ย้อมผมมั้ยครับ”
เป็นข้อเสนอของช่างแทบทุกครั้งที่เข้าร้านตัดผม
แต่แผนการขายของช่างไม่สำเร็จ ผมยังไม่ยอมจ่ายเงินค่ายาย้อมผมมาหลายปีแล้ว เมื่อตอนสามสิบต้นๆ
เคยให้ควาหวังช่างตัดผมขาประจำว่า หลังอายุสี่สิบถึงจะคิดย้อมผม
แต่มาจนบัดนี้ปีที่ห้าสิบต้นๆ แล้ว
ยังยืนยันและยึดมั่นหลักการที่ว่า...ศักดิ์ศรีของคนหนุ่ม คือกำลังของเขา แต่ความงามของคนแก่คือผมหงอกของเขา (Proverbs 20:29)
การที่ใครคนหนึ่งจะได้เห็นผมหงอก
ไม่ใช่ได้มาโดยง่าย ต้องอาศัยเวลา
และการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ถ้าไม่อย่างนั้น
คงไม่มีโอกาสมีชีวิตอยู่จนเห็นผมเปลี่ยนสีเป็นแน่ !... ยิ่งสถานการณ์ของสังคมไทย มีเหตุที่ทำให้คนต้องจากไปก่อนวันอันควรเยอะแยะ
ไม่วาจะเป็น เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง
ผู้คนต้องล้มตายลงอย่างน่าเศร้าใจนับร้อยนับพันคน ปีแล้วปีเล่าเราก็ยังไม่สามารถยับยั้งได้ ข่าวสงครามใหญ่ระหว่างประเทศมหาอำนาจที่เขาสาดใส่กันด้วยอาวุธร้ายแรง
แต่ความตายยังไม่ได้แซงสถิติของคนไทยในแต่ละเทศกาลเลย
นี่ยังไม่พูดถึงการยิงรันฟันแทงฆ่าแกงกันทั้งแบบตัวต่อตัว แบบยกพวกใส่กัน
แบบฆ่าล้างทั้งครอบครัว และการฆาตกรรมตัวเอง ที่นับวันยิ่งมากขึ้นจนน่าเป็นห่วง
ดังนั้น
หากวันนี้คุณยังมีชีวิตอยู่ ยังมีโอกาสเห็นความก้าวหน้าของชีวิตและสังคมรอบข้างอยู่ได้ นอกจากการรู้จักดูแล
รักษาชีวิตตามที่ควรจะเป็นแล้ว
ยังถือว่าเป็นพระคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระเจ้า ผู้ทรงรักห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของคนที่รักและเชื่อฟังพระองค์ เพราะหากไม่ได้รับการปกปักรักษาจากพระเจ้าแล้ว
ชีวิตนี้ก็ยากที่จะอยู่ได้ เพราะแม้เราระวังระวังเต็มที่ รอบคอบอย่างสุดกำลัง
แต่ยังมีความผิดพลาดของคนอื่นและสิ่งรอบข้างที่อาจทำให้ชีวิตของเราเสียหายได้เช่นกัน บางคนอาจจะบอกว่าเป็นโชคช่วย หรือดวงดี
แต่ผู้ที่มีความศรัทธาในพระเจ้า เราเชื่อว่า
พระเจ้าทรงเมตตาและทรงนำพาจนถึงเวลาอันสมควรต่างหาก !
กษัติรย์ซาโลมอนผู้เขียนสุภาษิตและบทเพลงชาวยิวโบราณสอนว่า...
ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า
ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า
เป็นการเหนื่อยเปล่า ที่ท่านลุกขึ้นแต่เช้ามืด นอนดึก
และกระหืดกระหอบกินอาหาร
เพราะพระองค์ประทานแก่ผู้ที่รักของพระองค์ ให้หลับสบาย (Psalms
127:1-2)
เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงควบคุมทุกเรื่องราวในชีวิต
แต่ขณะเดียวกันทรงให้มีอิสระที่จะเลือกตัดสินใจ
ว่าจะเดินในทางพระองค์หรือตามใจตนเอง สุดท้ายผลแห่งปลายทางจะเป็นดังเหตุที่เลือกนั้น
สำหรับผู้เชื่อและรักพระเจ้า
ทรงให้ความหวังเสมอว่า
...เราทราบแล้วว่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
พระเจ้าทรงบันดาลให้เป็นผลดีแก่ผู้ที่รักพระองค์ คือผู้ที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ (Romans
8:28 TSV)
ขอบคุณพระเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่และได้เห็นความก้าวหน้าหลายอย่างในชีวิต แม้อาจไม่เป็นดังใจคิด
แต่ชีวิตยังมีอยู่และยังมีโอกาสที่จะพัฒนา ไขว่คว้า ด้วยความเชื่อ ความหวัง และความรักที่ยังมีอยู่ในพระเจ้า ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นการดีไว้ในชีวิตตั้งแต่ก่อนเริ่มสร้างโลก
และจะทรงรักษาซึ่งทรงสัญญาไว้จนถึงวันสุดท้ายได้อย่างแน่นอน (1คร.13.13,ฟป.1.6,อฟ.1.4-5,2ทธ.1.12)
จากเด็กจนโต จากหนุ่มจนแก่ จากผมสีดำ
จนย้ำว่าขาวทั้งศีรษะแล้วนะ แม้อาจจะไม่สมดังใจปองไปเสียทั้งหมด แต่ยังเห็นอนาคต
ยังไม่หมดความหวัง และยังคงตั้งใจเสมอว่า ชีวิตนี้ที่ได้รู้จักพระเจ้าเราก็เป็นสุขใจในทุกเวลา
แม้ว่าสภาพภายนอกหลายอย่างเปลี่ยนไป แต่ภายในจิตใจยังสดใสและใหม่อยู่เสมอด้วยความรักมั่นคงที่ดำรงเป็นนิตย์
(2คร.4.16, พคค.3.22-23)...
คุณเคยคิดอย่างผม(บัณฑิต)มั้ยครับ !!
(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)