เพื่อชีวิตที่มั่นคง
และก้าวไกล
และก้าวไกล
เหตุฉะนั้นเมื่อท่านได้รับพระเยซูคริสตเจ้าแล้วฉันใด จงปฏิบัติพระองค์ด้วยฉันนั้น 7จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ และมั่นคงอยู่ในความเชื่อ ตามที่ท่านได้รับคำสั่งสอนมาแล้ว และจงบริบูรณ์ด้วยการขอบพระคุณ
(Colossians
2:6-7)
หากคุณปรารถนาชีวิตที่มั่นคงและก้าวไกล ทั้งชีวิตส่วนตัว และการทำงาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่ และยาก
ที่ต้องอาศัยทั้งความอึด (อดทน) และ ความเก๋า (เก่งและกล้าด้วยประสบการณ์)
และยังต้องอาศัย การอวยพระพร และ ความสำเร็จ จากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ซึ่งเป็นผู้ให้คำตอบสุดท้ายอย่างแท้จริง ดังพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า แผนงานของดวงความคิดเป็นของมนุษย์
แต่คำตอบของลิ้นมาจากพระเจ้า (Proverbs 16:1) เราเป็นผู้ปลูกและรดน้ำ แต่การเติบโตและเกิดผลสำเร็จนั้นเป็นอำนาจของพระเจ้า (I Corinthians 3:6)
แต่คำตอบของลิ้นมาจากพระเจ้า (Proverbs 16:1) เราเป็นผู้ปลูกและรดน้ำ แต่การเติบโตและเกิดผลสำเร็จนั้นเป็นอำนาจของพระเจ้า (I Corinthians 3:6)
ทำอย่างไรที่จะให้ชีวิตมั่นคงและก้าวไกล
ไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน...
1.
อย่าลืม ! ว่าคุณเป็นใคร
การรู้จักตนเอง
ว่าเป็นใคร ต้องทำอะไร เพื่ออะไร เป็นหลักการใช้ชีวิตที่จำเป็นสำหรับทุกคน หากใครไม่สามารถตอบคำถามพื้นฐานนี้ได้
คงไม่อาจดำรงชีวิตอย่างปกติสุขได้ การรู้จักตนเอง
ใช่ว่าจะเป็นเพียงการรู้ชื่อ สกุล ที่อยู่ ตำแหน่ง ฐานะ ที่เป็นอยู่เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการรู้ถึงตัวตนภายใน หรือ
ความหมายของชีวิต
เป้าหมายของการดำรงชีวิตอยู่และความมุ่งหวังทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่ชัดเจนด้วย ถึงจะสามารถนำพาชีวิตมั่นคงและก้าวไกลได้อย่างยั่งยืน
พระวจนะของพระเจ้าช่วยให้เข้าใจความจริงว่า
เราเป็นใคร และจำเป็นต้องทำอะไร เพื่ออะไรกันแน่
จากบทเรียนที่ได้รับจากพระธรรมโคโลสี บทที่ 2 ข้อ 6 ถึง 7 และ
ภาพรวมตอนอื่นๆ ก็พบว่า "...ท่านได้รับพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว..." หมายความว่า
ความเป็นตัวตนของคุณคือ การเป็นผู้ยอมรับพระเยซูคริสต์ โดยการเชื่อและไว้วางใจในพระนามของพระองค์ ยอมรับว่าพระองค์ทรงพระเจ้าที่เกิดเป็นมนุษย์ผู้บริสุทธิ์
ปราศจากบาป มลทิน
ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นค่าไถ่ความผิดบาปของมวลมนุษย์ ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายและยังทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์
อีกทั้งยังสัญญาว่าจะกลับมารับผู้เชื่อไปอยู่กับพระองค์ที่สวรรค์ด้วย คุณเชื่อและยอมรับอย่างนั้นหรือไม่ ?
หากคุณเชื่อเช่นนั้น คุณคือคนของพระเยซูคริสต์แล้วครับ
และเป็นคนที่พระองค์จะปกป้องดูแลดั่งลูกแกะในคอกของพระองค์ ที่ไม่ยอมให้ขโมยหน้าไหนมากล้ำกลายได้
คุณไม่เพียงเป็นคนธรรมดา
ที่มีชื่อ สุกล ที่อยู่ ฐานะ ตำแหน่ง ที่สังคมโลกกำหนดกันขึ้นมาเท่านั้น แต่ตัวตนที่แท้จริงของคุณคือ
ผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ เป็นคนของพระองค์ เป็นประชากร เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
และอื่นๆ อีกมากมาย ที่พระเยซูรับรองคุณด้วยพระนามอันยิ่งใหญ่
สิ่งที่ควรกระทำเพื่อตอบสนองต่อการอยู่ในฐานะคนของพระเยซู
คือ การดำเนินชีวิตในพระองค์ ทำตามพระองค์ เลียนแบบพระองค์ และ...จงปฏิบัติพระองค์ด้วย
หมายถึงทำทุกสิ่งเพื่อพระองค์ ทำให้สมกับเป็นคนของพระเยซู นั่นเอง ! เพราะคุณเป็นคนของพระเยซู
ชื่อของคุณ ที่ที่คุณอยู่ งานที่คุณทำ
และทุกสิ่งในชีวิตของคุณล้วนมีพระเยซูอยู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าคุณจะทำสิ่งดีหรือร้าย
จะมีผลกระทบต่อพระนามของพระเยซูด้วยเสมอ
ดังนั้น หากคุณรู้ว่าตนเองเป็นใคร และต้องทำอะไรอย่างแท้จริงแล้ว
คุณควรทำอย่างไรต่อไปดีครับ !
การรู้ตัวตนและรู้ถึงสิ่งที่ควรทำอย่างแท้จริง
มักนำพาชีวิตที่มั่นคงและก้าวไกลได้มากกว่า คุณว่ามั้ย !
2.
อย่าลืม ! พัฒนาชีวิตตนเองอยู่เสมอ
คนที่คิดว่าตนเองมั่นคงแล้ว
ดีแล้ว สำเร็จแล้ว มักพลาดพลั้งได้ (I Corinthians 10:12) เพราะความประมาท ความหลงระเริง มักนำพาสู่ความผิดพลาดล้มเหลวอย่างเจ็บปวด ดังนั้น
การที่จะดำเนินชีวิตให้มั่นคงและก้าวไกลอย่างยั่งยืน
จึงจำเป็นต้องหมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
ทั้งของประทาน พรสวรรค์ พรแสวงที่มีอยู่ในตัว ยังต้องดูแล
และกระทำให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น ทำให้เกิดทักษะ ความชำนาญและเชี่ยวชาญ
ในแต่ละด้านให้มากขึ้น (II Timothy 1:6)
ไม่เก็บไว้โดยเปล่าประโยชน์แต่ต้องหาวิธีที่จะทำให้เกิดดอกออกผลที่ดีเสมอ จึงจะเป็นที่ใช้การได้และได้รับคำชื่นชม
รวมทั้งรับบำเหน็จรางวัลตามสมควร(Matthew 25) อาจารย์เปาโลแนะนำว่า "...จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ และมั่นคงอยู่ในความเชื่อ ตามที่ท่านได้รับคำสั่งสอนมาแล้ว และจงบริบูรณ์ด้วยการขอบพระคุณ..."
ชีวิตจะมั่นคงก้าวหน้า ก้าวไกล
ไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ย่อมขึ้นอยู่กับการรู้จักพัฒนา ต่อยอด
ประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมกับตนเอง และเหมาะแก่สถานการณ์ ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น
แรงกล้า ท้าท้าย ซึ่งต้องลงทุน ลงแรง ลงเวลา และลงชีวิตอย่างแท้จริงด้วย ดังตัวอย่างอาจารย์เปาโลที่กล่าวว่า... ส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งโดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้ามิได้ต่อสู้อย่างนักมวยที่ชกลม แต่ข้าพเจ้าก็ทุบตีร่างกายให้มันแข็งจนอยู่มือ เพราะเกรงว่าเมื่อข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนอื่นแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นคนที่ใช้การไม่ได้(I
Corinthians 9:26-27) และยังสอนอีกว่า... อย่าให้ผู้ใดหมิ่นประมาทความหนุ่มแน่นของท่าน แต่จงเป็นแบบอย่างแก่คนที่เชื่อทั้งปวง ทั้งในทางวาจาและการประพฤติ ในความรัก
ในความเชื่อ และในความบริสุทธิ์ 13จงใฝ่ใจในการอ่านพระคัมภีร์ในที่ประชุม ในการเทศนาและในการสั่งสอนจนกว่าเราจะมา 14อย่าละเลยความสามารถที่มีอยู่ในตัวท่าน ซึ่งได้ทรงประทานแก่ท่านตามคำพยากรณ์ เมื่อคณะผู้ปกครองได้เอามือวางบนท่าน 15จงปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ โดยถือเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อความเจริญของท่านจะได้ปรากฏแก่คนทั้งปวง 16จงเอาใจใส่ทั้งตัวท่านและคำสอนของท่าน จงยึดข้อที่กล่าวนี้ให้มั่น เพราะเมื่อกระทำดังนั้น
ท่านจะช่วยทั้งตัวท่านเองและคนทั้งปวงที่ฟังท่านให้รอดได้ (I Timothy 4:12-16)
คุณไม่ได้ทำแต่ละอย่างด้วยกำลังสติปัญญาเพียงลำพัง
แต่มีพลังจากเบื้องบน สำหรับคนของพระเยซูอีกมากมายที่จะช่วยกระตุ้น ผลักดัน
ป้องกัน จัดเตรียม และประทานความสำเร็จอย่างอัศจรรย์ จึงมั่นใจได้เลยว่า ทุกย่างก้าวของชีวิต มีพระเยซูคริสต์อยู่เคียงเสมอ
จึงสามารถไปไกลกว่าที่คิด มีชีวิตที่มั่นคงกว่าที่หวัง
คุณเชื่อเช่นนี้หรือไม่ ?