พระเยซูคริสต์...ศูนย์กลางของชีวิตและจักรวาล
โดย
ศจ.บัณฑิต ดาแว่น
ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ ฉันใด พระเยซู คือ ผู้ที่เป็นศูนย์กลางของชีวิต และจักรวาลที่แท้จริง
ฉันนั้น เพราะเชื่อว่า การที่ระบบสุรยะจักรวาลขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบนั้น ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คอยควบคุมทุกสิ่งให้เป็นไปคือ
องค์พระเยซูคริสต์เจ้า ผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและสร้างทุกสิ่งขึ้นมา นั่นเอง !
เทศกาลคริสตมาส เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ของพระเยซูได้อย่างชัดเจน สังเกตจากการเฉลิมฉลองกันอย่างแพร่หลาย
ไปทุกทั่วมุมโลก ทุกอย่างล้วนมุ่งตรงมาที่พระเยซู ไม่ว่าจะเป็น ภาคธุรกิจ ภาครัฐ เอกชน
ประชาชนทั่วไป ต่างให้ความสนใจเทศกาลนี้
แสดงให้เห็นถึงความพิเศษ ความน่าสนใจ และความน่ามหัศจรรย์
ที่ผู้คนต่างให้ความสำคัญกับเทศกาลคริสตมาส
แม้ว่าบางครั้งอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงก็ตาม
การมาบังเกิดของพระเยซูก่อให้เกิดปีคริสตศักราชที่ใช้เป็นปีสากลของโลก แสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางของประศาสตร์โลกอย่างอัศจรรย์
ทุกสิ่งใต้ฟ้า จักรวาล อยู่ภายใต้กาลเวลาของพระเยซู
ผู้ทรงเป็นองค์นิรันดร์ ที่อยู่เหนือกาลเวลา
พระคัมภีร์บันทึกว่า
"พระเยซู" เป็น จุดเริ่มต้น และ เป็นเบื้องปลาย นั่นหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
ทุกสถานการณ์ล้วนเกี่ยวข้องกับพระเยซู ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ (วว.1.8 )พระเจ้าผู้ทรงอยู่เดี๋ยวนี้
ผู้ได้ทรงเป็นอยู่ในกาลก่อน
ผู้จะเสด็จมานั้น
และผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด
ได้ตรัสว่า “เราเป็นอัลฟา[
เป็นอักขระตัวต้นในภาษากรีก ] และโอเมกา[
เป็นอักขระตัวสุดท้ายในภาษากรีก ]
พระคัมภีร์เดิมพยากรณ์เล็งถึงพระเยซู
และ พระคัมภีร์ใหม่เริ่มต้นที่พระเยซู และทุกสิ่งที่พยากรณ์ไว้ได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ในพระเยซู ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมุ่งตรงมาที่พระเยซู
ตัวอย่าง...
อิสยาห์ 7.14 14เพราะฉะนั้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานหมายสำคัญเอง
ดูเถิด หญิงสาวสาวพรหมจารีได้
คนหนึ่งจะตั้งครรภ์
และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง
และเขาจะเรียกนามของท่านว่า
อิมมานูเอล[ แปลว่า
พระเจ้าทรงสถิตกับเราทั้งหลาย
มัทธิว 1.1 หนังสือลำดับพงศ์ของพระเยซูคริสต์
ผู้เป็นเชื้อสายของดาวิดผู้สืบตระกูลเนื่องมาจากอับราฮัม
มาระโก 1.1 ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้าเริ่มต้นตรงนี้
ชาวยิวบันทึกลับดับพงษ์พันธุ์
โดยมุ่งตรงมาที่พระเยซูเป็นสำคัญ
ดังนั้นตั้งแต่อับราฮัมลงมาจนถึงดาวิดจึงเป็นสิบสี่ชั่วคน และนับตั้งแต่ดาวิดลงมา
จนถึงต้องถูกกวาดไปเป็นเชลยยังกรุงบาบิโลน เป็นเวลาสิบสี่ชั่วคน
และนับตั้งแต่ต้องถูกกวาดไปเป็นเชลยยังกรุงบาบิโลน จนถึงพระคริสต์เป็นสิบสี่ชั่วคน(มธ.1.17)
การบังเกิดของพระเยซูทำให้พระวจนะของพระเจ้าสำเร็จ
ทั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อจะให้สำเร็จตามพระวจนะของพระเป็นเจ้า ซึ่งตรัสไว้โดยผู้เผยพระวจนะว่า... (มธ.1.22)
การบังเกิดของพระเยซู ทำให้ชีวิตคนธรรมดากลายเป็นบุคคลพิเศษ
เมื่อเขาให้พระเยซูเป็นศูนย์กลางของชีวิต (มธ.1-18-25)
โยเซฟ และมารีย์ แม้จะมีเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด
แต่พวกเขาก็กลายเป็นหญิงสาว ชายหนุ่ม เหมือนชาวบ้านธรรมดาทั่วไปแล้ว
เพราะการกระจัดกระจายของบ้านเมืองหลายร้อยปีที่ผ่านมา พวกเขาวางแผนชีวิตเพียงแค่ได้แต่งงาน
อยู่กินด้วยกัน ทำมาหากิน มีลูก มีที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า อาหาร
และปัจจัยพื้นฐานตามธรรมดาของชีวิตเท่านั้น
แต่เมื่อพวกเขายอมให้พระเยซูเป็นศูนย์กลางของชีวิตและ
กลายมาเป็นผู้มีส่วนในแผนการของพระเจ้าผ่านทางชีวิตพระเยซู ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
จากหญิงสาว ชายหนุ่ม ที่มีไม่กี่คนรู้จักในเวลานั้น แต่เวลานี้คนทั่วโลกรู้จัก และชื่นชมพวกเขา
ชื่อของเขาถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ และประกาศออกไปจนทั่วโลก เป็นเวลา 2 พันกว่าปีมาแล้ว
และสืบไปเป็นนิตย์ เพราะพวกเขามีพระเยซูเป็นศูนย์กลางชีวิต สิ่งเหลานี้เกิดขึ้นได้โดยง่ายหรือไม่ แต่เป็นไปโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า
ชีวิตของคุณและผมสามารถกลายเป็นชีวิตที่มีคุณค่าและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดได้ หากมีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลางของชีวิต
ศูนย์กลางการตัดสินใจ และการกระทำทุกสิ่ง สิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นกับชีวิตอย่างเหลือเชื่อ
เมื่อยอมให้พระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลางของชีวิต
ลองดูสิครับ !