ข้อคิดจากอิสราเอล
Stone Storytelling: ก้อนหินเล่าเรื่อง (6)
โดย บัณฑิต ดาแว่น
ภูเขาหินแห่งอุโมงค์ฝังศพ
คณะเดินตามรอยพระคัมภีร์ที่อิสราเอล
ได้เข้าเยี่ยมชมอุโมงค์ที่เชื่อว่าใช้เป็นที่ฝังพระศพพระเยซู (Garden
Tomb) เป็นอุโมงค์ที่ถูกขุดเข้าไปในภูเขาหิน มัทธิวสาวกพระเยซู บันทึกว่า
ครั้นถึงเวลาพลบค่ำ มีเศรษฐีคนหนึ่งมาจากบ้านอาริมาเธีย
ชื่อโยเซฟเป็นศิษย์ของพระเยซู ได้เข้าไปหาปีลาตขอพระศพพระเยซู ปีลาตจึงสั่งให้มอบแก่เขา โยเซฟก็เชิญพระศพเอาผ้าป่านที่สะอาด
พันหุ้มไว้ แล้วเชิญพระศพไปประดิษฐานไว้ที่อุโมงค์ใหม่ของตน ซึ่งเขาได้สกัดไว้ในศิลา
กลิ้งหินใหญ่ปิดปากอุโมงค์ไว้แล้วก็ไปฝ่ายมารีย์ชาวมักดาลากับมารีย์อีกคนหนึ่งนั้น ก็นั่งอยู่ที่นั่นตรงหน้าอุโมงค์ – Matthew 27:57-61
ผู้บรรยาย
อธิบายถึงลักษณะของอุโมงค์ (ตามแผนภาพ Diagram) มี 6
จุด 1. ทางเข้าห้องโถง (Entrance
to antechamber) 2. คันกั้นต่ำที่เข้าไปส่วนในที่วางศพ
เป็นเหมือนธรณีประตูเข้าสู่ห้องด้านใน (Low
threshold to burial chamber) 3. แนวผนังกั้นต่ำระหว่างห้องโถงและห้องที่วางศพส่วนใน(Low
rock walls) 4. ส่วนเฉพาะที่วางศพมีอยู่สองด้าน(Luculus- burial niche) 5. แนวกั้นระหว่างที่วางศพ (Slit
for vertical stone slab) 6. ห้องโถงที่เข้ามาร้องไห้
หรือเข้ามาดูแลภายในอุโมงค์(Antechamber – weeping
chamber) 7. ช่องหน้าต่างเล็ก
ที่สามารถมองลอดเข้าไปดูภายในอุโมงค์ (Small window)
นี่เป็นแผนผังอุโมงค์ฝังศพของคนรวยที่เตรียมไว้สำหรับตนเองและครอบครัว โดยส่วนที่สี่ถือว่าเป็นส่วนที่จะวางศพคนสำคัญในครอบครัว ส่วนใหญ่จะวางไว้ส่วนในด้านขวาบนของภาพ เขาเชื่อว่าพระศพของพระเยซูวางไว้ส่วนนั้นด้วย เป็นการจัดลำดับเหมือนบ้าน ห้องโถงหน้าและในมีระดับใกล้เคียงกัน แต่ที่วางศพส่วนที่สี่จะสูงขึ้นมาคล้ายระดับของเตียงนอนและมีแผ่นหินกั้นไว้ การจัดระบบอย่างนี้เพื่อสะดวกต่อการดูแล พร้อมทั้งมีช่องหน้าต่างเพื่อมองจากด้านนอกเข้าไปได้ด้วย
สำหรับอุโมงค์ฝังศพที่เศรษฐีโยเซฟอุทิศให้พระองค์นั้น
ยังไม่ได้ใช้งานมาก่อน
และหลังจากใช้เป็นที่ฝังศพพระเยซูก็ไม่ได้เป็นของครอบครัวของเขาอีกต่อไป
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นภาพ พระเยซูตายเพื่อรับความผิดบาปแทนเราทุกคน อุโมงค์ฝังศพนั่น
เป็นที่สุดท้ายที่มนุษย์จะต้องไปนอน
แต่โดยพระคุณพระเจ้า พระเยซูใช้อุโมงนั้นแทนเราแล้ว แม้วันหนึ่ง เราอาจไปนอนตรงนั้น
แต่เป็นเพียงชั่วคราว เพราะพระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย
และทรงสัญญาว่าทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะยังมีชีวิต(ฝ่ายวิญญาณ)แม้เขาจะตายไปแล้วก็ตาม
พระเยซูตรัสกับเธอว่า “เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่วางใจในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีก และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม” - John 11:25-26
จงยอมให้อุโมงค์ฝังศพเป็นของพระเยซูดีกว่านะครับ
อย่ากอดความตายไว้ที่ตัวคุณต่อไปเลย ให้ความบาปชั่วถูกฝังไว้ในอุโมงค์และรอวันเป็นขึ้นมามีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าโดยความเชื่อในพระเยซู
นะครับ
เหตุฉะนั้น
เราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์แล้ว
โดยการรับบัพติศมาเข้าส่วนในการตายนั้น
เพื่อว่าเมื่อพระคริสต์ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตายโดยเดชพระสิริของพระบิดาแล้ว
เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยเหมือนกัน - Romans 6:4