คิดอย่างบัณฑิต โดย บัณฑิต ดาแว่น
ประเทศไทยใน 7 F (Thailand 7#F )
จากสถานการณ์ทางสังคม การเมือง ช่วงที่ผ่านมา จนมาถึงวิกฤติการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย อาจสรุปได้ด้วย 7 F ดังนี้
F#1: Fight = การต่อสู้ คนไทยมีการต่อสู้กันอย่างรุนแรง ต่อเนื่อง เป็นเวลาหลายปี มีการการแตกแยก แบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งสี แบ่งชนชั้น ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่า คนไทยที่เคยรักสงบ สันติ สามัคคีกันดีมาตลอดนั้น จะมีการต่อสู้กันได้รุนแรงขนาดนั้น สร้างความสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน มีผลกระทบทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมือง อย่างประเมินค่าเสียหายไม่ได้
F#2: Fire = ไฟไหม้ ในการต่อสู้กันนั้น ไม่เพียงแค่ใช้อาวุธทางลมปาก อาวุธทางสื่อมวลชน สื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ แล้ว ยังมีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์จริง จนเกือบจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง ที่น่าเศร้าคือ ปิดท้ายด้วยการ “จุดไฟเผา” สถานที่สำคัญทางราชการ และสถานที่ทางเศรษฐกิจ ทั้งในต่างจังหวัดและใจกลางทางเศรษฐกิจในกรุงเทพ ควันไฟดำทะมึนอบอวน และพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สร้างความมืดครึ้ม หดหู่ ทุกข์ เศร้า เสียใจไปทั่ว
F#3: Flood = น้ำท่วม หลังจากยุติการต่อสู้กันไปหมาดๆ ยังไม่ทันจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ หรือเยียวยาความบาดหมางให้กลับดีดังเดิมได้ ก็เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ มวลน้ำมหึมาจากภาคเหนือ สู่ภาคกลางและกรุงเทพฯตามลำดับอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลายคนตั้งคำถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ?” ธรรมชาติกำลังเอาคืน หรือทวงถามอะไรบางอย่างที่มันขาดหายไปจากน้ำมือของมนุษย์หรือเปล่า ? บางคนคิดว่า น้ำท่วมครั้งนี้อาจเป็นการทำความสะอาดและขจัดความบาดหมางของไทยหรือเปล่า ? เพราะมีสัญญาณของการร่วมมือกันของทุกฝ่ายมากขึ้น โดยมาร่วมกันช่วยเหลือ เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย เรียกได้ว่า น้ำท่วมไม่ใช่เพียงแต่สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังมีด้านดีที่เกิดขึ้นท่ามกลางสังคมไทย ความสมานฉันท์ ปรองดอง ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เริ่มจะเกิดขึ้นได้ในยามวิกฤติเช่นนี้
F#4: Fear = ความกลัว ความกลัว ความกังวล ความสับสน ความทุกข์ลำบากได้เกิดขึ้นกันทุกคน ทุกฝ่าย ทั้งคนไทย และต่างชาติที่เกี่ยวข้อง ความกลัว กังวลถึงเรื่องชีวิต ความเป็นอยู่ งาน อาชีพ ครอบครัว และอนาคต มันกระทบไปถึงหัวใจของผู้คนจำนวนมาก กระจายไปทั่วถิ่น แม้กระทั่งประชาคมโลกยังต้องหวั่นไหว เพราะแหล่งเพาะปลูกข้าว อาหารของโลกได้สูญสลายไปกับสายน้ำจำนวนมาก
F#5: Future = อนาคต ต่อจากนี้ไปประเทศไทยจะเป็นอย่างไร อนาคตของโลก และชีวิตจะเป็นอย่างไร เป็นความรู้สึกและคำถามเกิดขึ้นในใจของผู้คน ดูเหมือน โลกนี้ ชีวิตนี้ จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว โลกกำลังแย่ลง หรือจะดีขึ้น เราจะทำอย่างไรกันดี มีคำถามที่ยากจะหาคำตอบที่จุใจได้ในเวลานี้
F#6: Forgive = การให้อภัย ขอให้เกิดการยกโทษ การให้อภัย อันเนื่องมาจากความบาดหมาง การต่อสู้ การเกลียดชังกันที่ผ่านมาให้หมดสิ้น ขอให้สิ่งที่ผ่านพ้นมานั้นกลายเป็นบทเรียนสอนใจทุกคน ทุกฝ่าย แม้จะเป็นเรื่องยากแต่หวังว่าการคืนดีอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นกับคนไทย เพื่อยืนหยัดในวันนี้ และมุ่งสู่วันพรุ่งนี้ด้วยพลังแห่งรัก ขอให้ทุก “สี” เชื่อมโยงกันจนกลายเป็น “สี-มัค-คา” = “สามัคคี” กันต่อไป
F#7: Faith = ความเชื่อ ขอให้มีความเชื่อ ความศรัทธาที่มั่นคงเกิดขึ้นกับทุกคน เพื่อจะมีความหวัง กำลังใจ และสามารถผ่านพ้นวิกฤติเหล่านี้ไปให้ได้ ขอให้เชื่อมั่นว่ายังมีพระผู้เป็นเจ้าที่ยังทรงรัก ห่วงใย ทรงพร้อมช่วยเหลืออยู่เสมอแม้ในยามยากลำบาก โดยความเชื่อในพระเจ้า จะช่วยให้เกิดความรอดพ้น เกิดการให้อภัยด้วยใจรักและการคืนดีกันอย่างแท้จริง เมื่อมีศรัทธาย่อมมีปัญญาเพื่อแก้ไขปัญหาได้ดีมากขึ้น แม้ดูเหมือนจะเกินกำลังของมนุษย์ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพระเจ้าที่จะสำแดงพระคุณ พระเมตตา ขอเพียงเริ่มด้วยความเชื่อ ทุกสิ่งเป็นไปได้โดยพระเจ้า
แม้จะมี 5 F คือ Fight, Fire, Flood, Fear และ Future ที่ทำให้เกิดต่อสู้ ร้อนรุนแรง และสูญเสีย ทำให้เกิดความทุกข์โศกเศร้า กลัว กังวล ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่ 2 F คือ Forgive และ Faith ที่เป็นการอภัยและความเชื่อศรัทธา เป็นหนทางแก้ไข เยียวยาทั้งในวันนี้และสืบไป ขอจงมั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้าที่กล่าวว่า
...องค์พระผู้เป็นเจ้า ประกาศว่า เพราะเรารู้แผนการที่เรามีไว้สำหรับเจ้า
เมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสุดใจของเจ้า" (ยรม.29.11-13 อมต.ร่วมสมัย)
*Follow the instruction below.*
1) Stare at the 4 little dots on the middle of the picture for 30 seconds
2) then look at a wall near you
3) a bright spot will appear
4) twinkle a few times and you‘ll see a figure
5) What do you see? Or even WHO do you see?
1) Stare at the 4 little dots on the middle of the picture for 30 seconds
2) then look at a wall near you
3) a bright spot will appear
4) twinkle a few times and you‘ll see a figure
5) What do you see? Or even WHO do you see?
จ้องมองภาพสัก 30 วินาที หันไปมองผนังที่อยู่ใกล้ หลับตาและรีบลืมตามองไปที่ผนัง ในชั่วขณะนั้นจะเห็นใบหน้าใครบางคน ลองนึกดูว่าคุณเห็นใคร